ที่จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ก ใช้ชื่อว่า Thirayu Lamprasert ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอผ่านโซเชียล กรณีมีปากเสียงกับพระสงฆ์รูปหนึ่งบนท้องถนน จนมีการแชร์ออกไปจำนวนมาก และส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์และต่างระบุว่า พระมีอาการคล้ายมึนเมา อีกด้วย
โดยในโพสต์เขียนระบุเหตุการณ์ ว่า ได้ขับรถจักรยานยนต์ จากบ้านเพื่อไปซื้อยา ที่อำเภอท่าตูม มาให้พ่อ ละขณะขับรถจักรยานยนต์ ระหว่างทาง สายท่าตูม-รัตนบุรี บริเวณบ้านไกลเสนียด ต.หนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พอขับรถไปถึงกลางทางป่าช้าบ้านหนองบัว มีรถกระบะสีดำ ขับรถตามมา จู่ๆพระรูปหนึ่งก็แซงไปจอดหน้ารถผม แต่ผมก็ขับผ่าน แล้วพระรูปนี้ ก็ขับตามมาอีก เร่งเครื่องแซงรถผมไปอีก จอดอยู่เลย 4 แยกบ้านโพนงอย แล้วผมก็จอดรถ พระรูปนี้ลงมาจากรถ เดินเข้ามาหาผม ที่รถผม เลยหยิบโทรศัพท์อัดคลิปไว้ แล้วนำมาโพสต์ในเฟสบุ๊ค ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ในสังคม ด้วยครับ
เมื่อเวลา 10.30 น. วัที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับเจ้าของคลิป คือ นายถีรายุ ล้ำประเสริฐ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนศรีปทุมพิทยาคม ต.หนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งนายถิรายุ ได้นำผู้สื่อข่าว เดินทางไปยังบริเวณจุดที่เกิดเหตุ บนถนนสายท่าตูม –รัตนบุรี ใกล้สี่แยกทางเข้าหมู่บ้านไกลเสนียด ต.หนองบัว พร้อมชี้จุดที่เกิดเหตุการณ์ในคลิป
นายถีรายุ เปิดเผยว่า จุดนี้เป็นจุดที่รถกระบะ ของพระสงฆ์รูปหนึ่ง ขับรถยนต์ตามหลังมา และมาจอด ด้านหน้ารถจักรยานยนต์ที่ตนเองขับมา พร้อมมีการปะทะคารมณ์กัน โดย โดยหลวงพ่อ เป็นคนขับรถปาดหน้า มาเบรกรถ หยุดรถลงมาต่อว่าตนเอง โดยก่อนที่จะมาต่อว่า ได้มีการเข้ามาผลักอกตนเองหนึ่งครั้ง แล้วก็ต่อว่าตนเอง
“เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณสี่โมงเย็นเมื่อวันก่อน เพื่อจะไปชื้อยาให้พ่อ หลวงพ่อขับรถตัดหน้าผม แล้วมาเบรกกลางถนน มาถามว่า อยู่บ้านไหน มาผลักอกหนึ่งที แล้วผมก็ถ่ายคลิปไว้ ยืนยันว่าเป็นพระ ผมเอาคลิปลงในเฟซบุ๊ก แล้วช่วงเย็นก็มีคนในหมู่บ้าน มาบอกให้ผมลบคลิป จะให้เงินสองพัน แต่ผมก็ไม่ลบ และยังบอกว่า หลวงพ่อนี่เป็นนักเลงมาก่อนนะ ผมก็ไม่สนใจ ผมก็เข้าห้องสอบ เขาเสนอเงิน สองพันบาทให้ลบคลิป และให้ลงขอโทษด้วย แต่ผมไม่ได้ทำ แต่ถึงแม้พระจะมีอาการคล้ายคนเมา แต่ผมก็ไม่ได้โพสต์ว่าพระเมา เดี๋ยวจะหาว่าปรักปรำเขาอีก”
ด้าน พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ ผู้กำกับการ สภ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ประมาณห้าโมงเย็นเมื่อวานนี้ เด็กนักเรียนโรงเรียนศรีปทุมพิทยาคม ต.หนองบัว อ.ท่าตูม ได้เข้ามาปรึกษาร้อยเวร ซึ่งทางร้อยเวรก็ยังไม่ได้รายงานให้ตนทราบ ก็คงคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย และก็ได้แนะนำให้คำปรึกษาเด็กไป พอดีเมื่อเช้าเห็นข่าวทางทีวีนำเสนอ ตนก็เลยได้สอบกับทางร้อยเวรจึงทราบ เลยสั่งการให้ทางร้อยเวรตรวจสอบข้อมูลของพระที่อยู่ในข่าว ทราบว่าพระดังกล่าวเป็นพระลูกวัดอยู่ที่บ้านโนนจำปา ต.เป็นสุข จ.สุรินทร์ และได้ให้ร้อยเวรติดต่อเรียกตัวมาเพื่อพูดคุยกับคู่กรณี แล้วก็ดำเนินการตามกฎหมาย เช่นพิจารณาในเรื่องของการขับรถ ว่าขับรถประมาทหวาดเสียวหรือไม่ ก่อความเดือดร้อนรำคาญหรือเปล่า ส่วนในเรื่องเมานั้นต้องพิจารณาดูอีกทีว่า จนป่านนี้แล้วจะตรวจแอลกอฮอล์เจอหรือไม่ ต้องพิจารณาตามหลักฐานอีกทีหนึ่ง
“จากการสอบถามเด็กทราบว่าได้มีการส่งคนเข้ามาพูดคุยกับเด็ก และจะให้เงินจำนวน 2 พันบาท เพื่อให้เด็กลบคลิปทิ้ง ประมาณว่ายอมความกัน อย่างไรก็ตามทางตำรวจก็ต้องเรียกตัวมาดำเนินการให้เสร็จสิ้นขบวนความ ถึงเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เมื่อออกข่าวไปแล้วทำให้สังคมสนใจ ทางตำรวจจึงดำเนินการให้เสร็จสิ้นทางขบวนการทางกฎหมายไป”
จากนั้น เวลา 11.30 น.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดศรีพรมอุดมธรรม ต.กระหาด อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ เพื่อพบกับพระสงฆ์ที่ผู้ปรากฏในคลิปดังกล่าว ทราบว่า พระรูปนี้คือ พระประยูร บุริสีโร อายุ 54 ปี บวช มาแล้ว 15 พรรษา เป็นพระลูกวัดศรีพรมอุดมธรรม พร้อมเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ยอมรับว่าขับรถไปเอง เพราะหาคนขับรถไม่ได้ ขับรถพาเจ้าอาวาสวัด ซึ่งเป็นเจ้าคณะตำบลกระหาด และยังรักษาการเจ้าคณะ ต.เป็นสุข เพื่อเดินทางไปหาญาติโยมที่บ้านหนองบัว ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง เพื่อนำรายชื่อญาติโยม มาจัดทำผ้าป่า หาปัจจัย สร้างกำแพงแก้วรอบโบสถ์ ขณะเดินทางก็พบว่ามีรถจักรยานยนต์ ขับลักษณะ กวนรถตนเอง ขับผ่านไปแล้วก็เบรกหน้ารถตนเอง หากตนเองเบรกไม่ทัน ก็จะทำให้ชนได้ และขับไปแล้วยังก้มมองท่อไอเสีย เห็นว่าการขับแบบนี้จะเกิดอันตราย ตนเองจึงขับปาดหน้าและหยุดรถลงมาถาม ว่าเป็นคนบ้านไหน ขับรถแบบนี้จะทำให้เกิดอันตรายได้ มีการโต้เถียงกัน ส่วนที่ว่าตนเองเมา ตนเองยืนยันว่า ไม่ได้เมา เป็นเพราะตนเองเป็นคนพูดจาแบบนี้ตรงไปตรงมา ซึ่งเจ้าอาวาสวัด ที่เป็นเจ้าคณะตำบลกระหาด และรักษาการเจ้าคณะตำบลเป็นสุข ก็นั่งอยู่ในรถด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาเครื่องเป่าแอลกอฮอล์มาให้ตนเป่าก็ไม่พบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์แต่อย่างใด
ด้านนายอริยะ สิงโต ผู้ใหญ่บ้านโนนจำปา หมู่ 3 ต.เป็นสุข ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ติดกับวัดศรีพรมอุดมธรรม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าวไม่ใช่อยู่ที่สำนักสงฆ์บ้านโนนจำปาแต่อย่างใด แต่เป็นพระสงฆ์ที่วัดศรีพรมอุดมธรรม ต.กระหาด ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน วัดแห่งนี้มักจะมีปัญหากับญาติโยมในพื้นที่มาโดยตลอด เพราะพระสงฆ์ในวัด มีพฤติการณ์ไม่น่าเคารพ จนกระทั่งชาวบ้านโนนจำปาส่วนใหญ่ ได้ตั้งสำนักสงฆ์แห่งใหม่ขึ้นกันเอง เพื่อจะใช้ประกอบพิธีทางศาสนาและทำบุญเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่งเข้าไปในวัดศรีพรมอุดมธรรมไม่ได้ ส่วนพฤติการณ์ของพระในวัดตนเองเคย แจ้งให้ทางอำเภอ ทางเจ้าคณะอำเภอได้ทราบ แต่ไม่มีการเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขแต่อย่างใด เมื่อปีที่แล้วนายอำเภอจอมพระ ก็นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสารักษาดินแดน เข้าตรวจจับยาบ้าในวัด และจับสึกพระสงฆ์ไปแล้ว 2 รูป ที่เกี่ยวข้องกับยาบ้า ที่ผ่านมาพวกตนทราบเรื่องภายในวัดนี้ดีแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ครั้งนี้ สังคมควรมาตรวจสอบ เพื่อให้วัด เป็นที่พึ่งเคารพศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ให้ได้
