ในสถานการณที่ทีมรัสเซียต้องเสีย อลัน ซาโกเยฟ มิดฟิลด์คนสำคัญในเกมเปิดสนามฟุตบอลโลก 2018 พบ ซาอุดีอาระเบีย แต่กลับได้ฮีโร่ใหม่คือ เดนิส เชรีเชฟ ตัวสำรองที่ลงมาในนาทีที่ 24 ก่อนซัด 2 ประตู จนแฟนบอลทั่วโลกต้องจดจำชื่อเขาไว้เลทีเดียว
นอกจากประตูแรกที่ ยูริ กาซินสกี้ โหม่งตุงตาข่ายจากการโยนบอลอันแม่นยำของ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน แล้ว เชรีเชฟถือว่า สร้างความโดดเด่นให้ทัพหมีขาวเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังสอดแทรกหาโอกาสยิงประตูอันสวยงามทั้งสองลูก
เชรีเชฟ เคยเป็นเด็กปั้นทีมรีล มาดริด ช่วงปี 2002-2009 แต่มีโอกาสได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น ก่อนถูกปล่อยตัวยืมไปเล่นกับทีมเซบีญ่า, บาเลนเซีย และ บีร์ยารีล ซื้อขาดไปร่วมทัพตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปัจจุบัน
เมื่อปี 2011 ที่เชรีเชฟให้สัมภาษณ์กับ “มาร์ก้า” ว่า เขารู้สึกเป็นชาวสเปนิชมากกว่าชาวรัสเซียน ทำให้เขาถูกเรียกติดทีมชาติรัสเซียในปี 2012 ในเกมเสมอ สหรัฐ 2-2 และลงเล่นในตำแหน่งเดียวกันกับ ดิมิทรี พ่อของเขาในยุคเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ปีกซ้ายรายนี้พลาดช่วยทีมทำศึกยูโร 2016 จากอาการบาดเจ็บ และห่างหายจากทีมไปกว่า 2 ปี ก่อนมีชื่อกลับมาติดทีมชาติรัสเซียอีกครั้งเมื่อปี 2018 ซึ่งทำผลงานได้โดดเด่นจนมีโอกาสได้ไปเล่นฟุตบอลหนนี้เป็นหนแรกในชีวิตของตัวเอง
ทันทีที่ได้ลงสนามไม่กี่นาทีเชรีเชฟยิงประตูแรกอันล้ำค่าของตัวเอง เพราะเป็นประตูแรกทั้งในนามทีมชาติ และในฟุตบอลโลกครั้งแรกของตัวเอง พร้อมกับแจ้งเกิดได้อย่างสวยงามในดินแดนบ้านเกิดของตัวเอง
และเขายังเหลือเวลาอีกมากมายในการสร้างความโดดเด่นฉายแววสู่การเป็นนักเตะคำสคัญของรัสเซียในอนาคตต่อไปด้วย