‘หลุยส์ ซัวเรซ’ ค่ำคืนสลัดคราบผู้ร้ายแห่ง ‘เวิลด์คัพ’

อุรุกวัยยิงแค่ 2 ประตู ใน 2 นัดของฟุตบอล แต่ก็เพียงพอในการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน

แมตช์ที่ 2 ทีมจอมโหดเฉือนชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0 จากประตูชัยของ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าที่เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวร้ายทำให้ทีมไปไม่ถึงฝัน ในฟุตบอลโลก 2014

ซัวเรซไปกัด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อิตาลี ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย ถึงแม้วันนั้นอุรุกวัยจะชนะ 1-0 และผ่านเข้ารอบ 16 ทีมไปได้ แต่ซัวเรซโดน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษห้ามลงแข่งขันในนามทีมชาติยาว 9 นัด ทำให้ไม่สามารถช่วยทีมได้ในแมตช์ที่เหลือ ก่อนที่อุรุกวัยจะโดนเพื่อนร่วมทวีปอเมริกาใต้อย่างโคลอมเบียเขี่ยตกรอบ 16 ทีมไปอย่างบอบช้ำ

Advertisement

ซัวเรซกลายเป็น “ไอ้โรคจิต” ที่ไปกัดคู่แข่ง และมีการขุดคุ้ยเหตุการณ์ที่เขาเคยกัดนักเตะคนอื่นๆ ออกมาแฉกันมากมาย ก่อนที่จะตัดสินใจอำลาทีม ลิเวอร์พูล ไปเล่นให้ บาร์เซโลน่า เพราะโดนสื่ออังกฤษกดดัน รวมทั้งยังโดนแบนในระดับสโมสรอีก 4 นัดด้วย

ถ้าย้อนกลับไปนานกว่านั้น 8 ปีที่แล้ว ในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ซัวเรซก็เคยโดนใบแดงไล่ออกจากสนามมาแล้ว เมื่อเขาใช้มือปัดลูกยิงของนักเตะกานา หน้าเขตโทษ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ จนโดนใบแดง ช่วยให้ทีมไม่เสียประตู แต่วันนั้นอุรุกวัยชนะจุดโทษ 4-2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ

Advertisement

ครั้งนั้นซัวเรซได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ที่เสียสละตัวเองเพื่อให้ทีมได้รับชัยชนะ แต่เมื่อไม่มีเขา อุรุกวัยก็อ่อนแอลง ดิเอโก้ ฟอร์ลัน ไม่สามารถแบกทีมได้ และแพ้ เนเธอร์แลนด์ 2-3 ชวดเข้าชิง

4 ปีที่ผ่านไป เหมือนว่าซัวเรซจะมีวุฒิภาวะที่โตไปตามอายุ และฝีเท้าที่ยังคงเชื่อใจได้ยามอยู่ในสนาม ไม่มีเหตุการณ์อื้อฉาวใดๆ อีก ประสบความสำเร็จกับบาร์ซ่ามากมาย และยังคงเป็นความหวังสูงสุดของทีมชาติ และเพิ่งผ่านการรับใช้ชาติไปครบ 100 นัดอย่างสวยหรู

กองหน้าจากบาร์เซโลน่าฉลองการเล่นให้อุรุกวัยนัดที่ 100 ด้วยการยิงประตูชัยส่งให้อุรุกวัยเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อีกครั้ง ความหวังการจะเข้าไปคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ก็ยังคงเปิดกว้าง

ประตูที่เขายิงได้ในวันนี้ ทำให้ซัวเรซกลายเป็นนักเตะอุรุกวัยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ยิงประตูในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้ 3 สมัยติดต่อกัน และทำประตูให้ทีมชาติรวมกัน 52 ประตู ยังคงเป็นนักเตะที่ยิงประตูให้ทีมชาติได้มากที่สุด และตลอด 11 ปีที่ผ่านมา เขาซัดประตูให้ทีมชาติได้ทุกปีไม่มีบกพร่อง

ซัวเรซบอกว่า ประตูนี้พิเศษสำหรับเขามาก แต่ใจจริงแล้วอยากจะยิงให้ได้ตั้งแต่แมตช์แรกกับ อียิปต์ แต่ก็ภูมิใจมากที่มีส่วนช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบต่อไปได้ ซึ่งทีมอาจจะไม่สามารถเล่นในสไตล์ที่ถนัดได้ แต่การยิง 1 ประตูและเป็นชัยชนะนับเป็นสิ่งสำคัญในฟุตบอลโลก

ขณะที่ ออสการ์ ตาบาเรซ กุนซือทีมจอมโหดกล่าวถึงฮีโร่ของทีมว่า ซัวเรซเป็นนักเตะที่มีความรับผิดชอบเป็นเอกลักษณ์ เขามักจะใช้แรงกดดันเป็นพลังให้เขาทุ่มเทเพื่อทีม

นอกจากการฉลองการเข้ารอบ 16 ทีมของทีมจอมโหด ซัวเรซยังประกาศข่าวดีให้แฟนบอลได้ทราบว่า โซเฟีย บาลบี้ ภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 ซึ่งเขาใช้ลูกบอลใส่ไปในเสื้อในการฉลองประตูที่ยิงได้ เป็นสัญลักษณ์ก่อนแล้ว 1 ครั้ง

บาลบี้เป็นผู้ที่อยู่เคียงข้างกับซัวเรซมาครึ่งชีวิต ฟุตบอลโลก 2010 ซัวเรซเป็นที่เกลียดชังของชาวแอฟริกันทั้งทวีป ที่ใช้มือปัดบอลเกมกับกานา ปี 2014 กลายเป็นจอมกัดที่โดนเหยียดหยาม บาลบี้นี่เองที่เป็นค่อยๆ ปรับพฤติกรรมของสามีมาเรื่อยๆ

“บาลบี้สังเกตพฤติกรรมของผม เธอบอกว่าผมไปเถียงกรรมการอยู่บ่อยๆ และมีปัญหามักจะมีปัญหากับกองหลังคู่แข่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในสนาม” ซัวเรซเคยบอกกับนิตยสารลิเวอร์พูลไว้อย่างนี้

ในวัย 31 ปี ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของเขาแล้ว ไม่ว่าอุรุกวัยจะปิดฉากฟุตบอลในรอบไหน จะคว้าแชมป์โลกได้หรือไม่

ถ้าซัวเรซสามารถรักษาสมาธิและความนิ่งเอาไว้ได้จนจบ ไม่มีเรื่องอื้อฉาวเหมือนเวิลด์คัพ 2 ครั้งที่ผ่านมา เขาจะกลายเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตของทีมจอมโหดแบบไม่ต้องสงสัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image