ท่ามกลางการลุ้นอย่างหนักของแฟนบอล บราซิล กว่าที่ ฟิลิเป้ คูตินโญ่ จะยิงประตูให้ทีมแซมบ้าขึ้นนำ คอสตาริกา ได้ ต้องรอจนถึงช่วงทดเจ็บของครึ่งหลัง เหมือนว่าสปอตไลท์จะสาดไปทางคูตินโญ่ที่เป็นฮีโร่แล้ว แต่หลังจากนั้นอีก 4 นาทีกว่า แสงไฟก็สาดไปหา เนย์มาร์ ซุป’ตาร์เบอร์ 1 ของทีม เพราะเป็นคนยิงปิดกล่อง พร้อมทั้งปล่อยโฮกลางสนามฟุตบอล
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเมื่อเป็นผู้ยิงประตู แล้วทำไมเนย์มาร์ต้องร้องไห้?
เนย์มาร์ทุ่มสุดตัวในแมตช์กับคอสตาริกา เพราะเขารู้ดีว่าถ้าบราซิลคว้าชัยชนะไม่ได้ โอกาสตกรอบแรกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบราซิลมีโอกาสเกิดขึ้นสูง เขาวิ่งไปทั่วในแดนหน้า โดนเตะเละเทะ บางจังหวะล้มจริง บางจังหวะก็พุ่งล้ม ถึงจะเรียกจุดโทษได้ แต่วีเออาร์และผู้ตัดสินกลับปฏิเสธโอกาสขึ้นนำของบราซิลแบบไม่เหลือเยื่อใย
แข้ง ปารีส แซงต์แชร์แมง ถูกความกดดันถาโถมอยู่ตลอด หลังจากหมดยุคของ โรนัลโด้, ริวัลโด้ รวมทั้ง โรนัลดินโญ่ เขากลายเป็นความหวังสูงสุดของทีมชาติ ตั้งแต่ที่เล่นอยู่กับ ซานโต๊ส ในบ้านเกิดแล้ว
ความสำเร็จกับบาร์เซโลน่ายิ่งทำให้ความคาดหวังในตัวเนย์มาร์เพิ่มขึ้น แต่เมื่อไม่สามารถหลุดพ้นร่มเงาของ ลิโอเนล เมสซี่ ในทีมยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นกาตาลัน การออกไปสร้างอาณาจักรของตัวเองในลีกเอิงกับเปแอสเช ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ยิ่งกลายเป็นนักเตะค่าตัวที่สูงที่สุดในโลกด้วยแล้ว แทบไม่ต้องคิดซ้ำสอง
เนย์มาร์เจ็บหนักตลอดหลายเดือน หลังจากกระดูกเท้าขวาแตก ปิดฤดูกาลไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนวิตกกันว่าเขาจะหายไม่ทันเล่นฟุตบอลโลก!
นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกโพสต์ถึงสาเหตุที่ร้องไห้ในอินสตาแกรมว่า “ผมร้องไห้เพราะความดีใจ และความพยายามที่จะคว้าชัยชนะ ในชีวิตผม ไม่เคยมีอะไรที่ง่าย และครั้งนี้ก็ด้วย ความฝันยังคงดำเนินต่อไป ความตั้งใจยังคงอยู่”
หลังจบเกมกับคอสตาริกา เนย์มาร์ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ไม่ไปร่วมแถลงข่าว ว่ากันว่านั่นเป็นการเอาคืนสื่อมวลชน ที่กดดันและโจมตีเขามากมายในช่วงที่ย้ายทีมไปเปแอสเช โดยยกเหตุผลของ “เงิน” มาเป็นปัจจัยหลัก รวมทั้งวิจารณ์ว่าไม่สามารถเป็นที่พึ่งพาของบราซิลได้ ห่วงภาพลักษณ์มากเกินความจำเป็น
ฟุตบอลโลก 2018 เนย์มาร์เป็นความหวังสูงสุดของทีมก็จริง แต่ไม่ได้เป็นผู้นำของบราซิล เขามีอารมณ์ฉุนเฉียว ทั้งประท้วงผู้ตัดสิน และก้าวร้าว เหตุผลมาจากการที่เขากลายเป็นเป้าหลักในการทำฟาวล์ของผู้เล่นฝั่งตรงข้าม สวิตเซอร์แลนด์ และคอสตาริกาอัดเขาจนน่วมตลอดทั้งเกม ยิ่งการที่ บียอร์น ไคเปอร์ ผู้ตัดสินชาวดัตช์ปฏิเสธการให้จุดโทษ ยิ่งทำให้ความโกรธของเขาพลุ่งพล่านขึ้นไปอีก ไฟลามทุ่งจนทำให้สตาร์บราซิลมีปัญหากับผู้ตัดสินในอุโมงค์ด้วย
ถ้ามองย้อนกลับไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เนย์มาร์เสียน้ำตาออกสื่อ วันที่บาร์ซ่าแพ้ ยูเวนตุส ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2016/2017 เขาก็ปล่อยโฮออกมาจนเพื่อนร่วมทีม และดานี่ อัลเวส รุ่นพี่ในทีมชาติที่อยู่กับยูเวนตุสในวันนั้น ต้องเข้ามช่วยกันปลอบ ปี 2016 เมื่อพาบราซิลคว้าเหรียญทอง ฟุตบอลชาย โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่สนามมาราคานา ก็ล้มตัวลงร้องไห้ฉลองชัย หรือในฟุตบอลโลก 2014 ที่โดนกองหลัง โคลอมเบีย ทำฟาวล์จนเจ็บหนัก ก็ออกมาแถลงข่าวร้องไห้ให้เห็นกันอีก ไม่นับเหตุการณ์นอกสนามต่างๆ ที่มีคลิปให้เห็นความเซ้นส์ซิทีฟของแข้งรายนี้อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม “โอ โกลโบ” หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของบราซิลออกมาวิจารณ์ท่าทีของเนย์มาร์ในครั้งนี้ว่า “ในเวลานี้บราซิลต้องการแสดงถึงความแข็งแกร่ง ไม่ใช่ความอ่อนแอแบบนี้ ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิด การที่เนย์มาร์ร้องไห้ออกมาตั้งแต่นัดที่ 2 ของฟุตบอลโลก ก็สร้างความกังวลให้กับทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
ติเต้ กุนซือทีมแซมบ้าบอกว่า เนย์มาร์ไม่ใช่เครื่องจักร เขาก็เหมือนมนุษย์ทั่วไปที่มีอารมณ์ความรู้สึก พร้อมทั้งยืนยันว่า เนย์มาร์ยังเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมชาติบราซิลอยู่เหมือนเดิม
ในวันที่บราซิลตกรอบ หรือวันที่เป็นแชมป์โลก นักเตะอ่อนไหวอย่างเนย์มาร์ก็น่าจะยังร้องไห้ให้ได้เห็นแน่ๆ ขึ้นอยู่กับว่าน้ำตาครั้งสุดท้ายของเขาในฟุตบอลโลก 2018 จะเกิดจากความสุขหรือความทุกข์เท่านั้นเอง
