ภายหลังลูกทีมนำก่อนพ่ายเยอรมนี แชมป์เก่า 1-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบแรก กลุ่มเอฟ นัดที่ 2 ที่ฟิชต์ สเตเดียม เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ยานน์ อันเดอร์สสัน กุนซือทีมชาติสวีเดน กล่าวว่า นัดนี้ทีมอินทรีเหล็กสร้างโอกาสทำประตูดีๆ ได้ไม่มากนัก และนายทวารไวกิ้งก็โชว์เซฟสวยๆ ได้หลายครั้ง รู้สึกว่าทีมโชคร้ายที่ไม่ได้แต้มติดมือแม้แต่แต้มเดียว แต่ไม่คิดจะโทษใครหรือมองว่าเป็นความผิดพลาดในเรื่องแทกติก
กุนซือไวกิ้งกล่าวต่อว่า บางทีผลแข่งนัดนี้อาจจะเป็นบทสรุปที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตการเป็นโค้ชของตน เพราะลูกทีมคุมเกมได้จนถึงนาทีสุดท้ายในจังหวะฟรีคิกของโทนี่ โครส ซึ่งยอมรับว่าเป็นประตูที่สุดยอดมากๆ จริงๆ อย่างไรก็ตาม โอกาสการเข้ารอบของทั้งกลุ่มยังเปิดกว้าง ทุกคนต้องรีบทำใจแล้วกลับมาสู้ใหม่ในนัดหน้า
อันเดอร์สสันยังกล่าวถึงกรณีที่มาร์คุส เบิร์ก กองหน้าทีมไวกิ้งโดนสกัดล้มในกรอบเขตโทษช่วงครึ่งแรกซึ่งควรจะเป็นลูกจุดโทษ น่าแปลกใจที่ในเมื่อตอนนี้ฟุตบอลโลกก็นำระบบวีเออาร์มาใช้แล้ว ทำไมกรรมการจึงไม่เปิดดูเพื่อตัดสินใจให้ละเอียด ยอมรับว่าตนไม่ได้เห็นจังหวะนั้นด้วยตาตัวเอง แต่เชื่อคำบอกเล่าของสต๊าฟโค้ชที่ว่าต้องเป็นจุดโทษแน่ๆ
ในตอนท้าย กุนซือชาวสวีดิชยังตำหนิแข้งเมืองเบียร์ที่มาแสดงอาการเชิงเย้ยหยันบริเวณม้านั่งสำรองของทีมสวีเดนหลังจบเกมว่า อีกฝ่ายเข้ามาแสดงท่าที่ไม่เป็นมิตรใส่ ทำให้ทุกคนหงุดหงิดและโกรธมาก ตอนนั้นต่างฝ่ายต่างก็สู้กันเต็มที่มา 90 นาที เมื่อจบเกมแล้วก็ควรจะจับมือกันแล้วแยกย้าย จึงไม่พอใจในการกระทำของนักเตะเยอรมนีมากๆ
