เปิดกติกาบอลโลกดู “เงื่อนไข” ใครจะอยู่ใครจะไปในนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม

การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 มาถึงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม เป็นช่วงชี้ชะตาสำคัญว่าทีมใดจะได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบน็อกเอาต์กันบ้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาทีมใหญ่ทีมเต็งซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้เล่นผิดฟอร์มกันหลายทีม แทนที่จะลอยลำเข้ารอบสบายๆ จึงต้องลุ้นระทึกจนถึงหยดสุดท้ายกันหลายทีม

เพื่อให้การลุ้นผลการแข่งขันในเกมเตะนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น เราจึงถือโอกาสกางกฎ-กติกาของการแข่งขัน เพื่อดูเงื่อนไขต่างๆ ว่า ทีมไหนจะต้องทำอย่างไร หากหวังจะผ่านเข้ารอบต่อไปกันบ้าง

สำหรับการจัดอันดับตารางคะแนนรอบแบ่งกลุ่มของฟีฟ่ากำหนดไว้ ดังนี้
1.เรียงตามคะแนนจากเกมเตะทุกนัด
2.ถ้าคะแนนเท่ากันให้เรียงตามผลต่างประตูทุกนัด
3.ถ้าเท่ากันอีกให้เรียงตามจำนวนประตูยิงได้ของเกมทุกนัด
กรณีที่เรียงตาม 3 เงื่อนไขข้างต้นแล้วยังมีทีมที่เท่ากันทุกอย่าง ให้เรียงตามเกณฑ์ต่อไป ดังนี้
4.คะแนนเฉพาะแมตช์ที่ทีมซึ่งมีคะแนนเท่ากันเตะกัน (หมายถึง “เฮดทูเฮด” กรณีมี 2 ทีม หรือ “มินิลีก” กรณีมี 3 ทีม)
5.ผลต่างประตูเฉพาะเกมที่ทีมซึ่งมีคะแนนเท่ากันเตะกัน (มินิลีก) 6.จำนวนประตูยิงได้เฉพาะเกมที่ทีมซึ่งมีคะแนนเท่ากันเจอกัน (มินิลีก)

Advertisement

หากใช้เงื่อนไขข้างต้นแล้วยังไม่สามารถตัดสินได้อีก ซึ่งกรณีที่มีแค่ 2 ทีมคะแนนเท่ากัน แถมแมตช์ที่เจอกันเองยังเสมอกัน ก็ต้องไปใช้เกณฑ์ข้อต่อมาเป็นตัวตัดสิน นั่นคือ 7.คะแนนแฟร์เพลย์ โดยใบเหลืองทุกใบจะติดลบ 1 คะแนน, ใบแดงที่เกิดจากใบเหลืองที่ 2 ติดลบ 3 คะแนน, ใบแดงโดยตรง ติดลบ 4 คะแนน, ได้ทั้งใบเหลืองและใบแดงโดยตรง ติดลบ 5 คะแนน นักเตะ 1 คน จะโดนหักคะแนนสูงสุดตามเกณฑ์ข้างต้นเพียงอย่างเดียวต่อ 1 แมตช์ (เช่นได้ใบเหลืองแล้วมาโดนใบเหลืองที่ 2 ไล่ออกจากสนาม จะติดลบ 3 คะแนน ไม่ใช่เอาคะแนนติดลบ 1 จากใบเหลืองแรกมารวมด้วย)

สมมุติว่าเกิดเหตุเหลือเชื่อที่ผลการคำนวณคะแนนแฟร์เพลย์ระหว่าง 2 หรือ 3 ทีมนั้นเกิดบังเอิญเท่ากันขึ้นมาอีก ฟีฟ่าก็กำหนดว่า จะใช้วิธีการ จับสลาก เป็นการชี้ชะตาสุดท้ายเพื่อหาทีมเข้ารอบ

ทีนี้ลองมาดูสถานการณ์ของแต่ละกลุ่มกับเงื่อนไขการจัดอันดับทีมเข้ารอบข้างต้นกันบ้าง

Advertisement

กลุ่มเอ ไม่มีอะไรซับซ้อน เนื่องจาก รัสเซีย กับ อุรุกวัย มี 6 แต้มเท่ากัน กอดคอเข้ารอบเรียบร้อย เหลือเพียงแย่งแชมป์กลุ่มกันเองในนัดสุดท้าย ใครชนะจะเป็นแชมป์กลุ่ม แต่กรณีเสมอ เจ้าภาพ รัสเซียซึ่งผลต่างประตูดีกว่า (+7 กับ +2) จะเป็นแชมป์กลุ่ม

โปรแกรมเตะนัดสุดท้าย
อุรุกวัย พบ รัสเซีย
ซาอุดีอาระเบีย พบ อียิปต์

กลุ่มบี โอกาสยังเปิดสำหรับ สเปน, โปรตุเกส ซึ่งมี 4 คะแนนเท่ากัน และ อิหร่าน ซึ่งมี 3 คะแนน

ถ้าอิหร่านแพ้โปรตุเกสในนัดสุดท้าย กระทิงดุกับฝอยทองจะเกี่ยวก้อยกันเข้ารอบ

แต่ถ้าสเปนชนะโมร็อกโก แล้วอิหร่านชนะโปรตุเกส อิหร่านกับสเปนจะเข้ารอบ

อาจเกิดกรณีสเปนกับโปรตุเกสต่างชนะหรือเสมอด้วยสกอร์เท่ากัน ทั้ง 2 ทีมก็จะเข้ารอบต่อไปพร้อมกัน แต่เนื่องจากทุกอย่างจะเท่ากันหมด และสองทีมก็เสมอกันมา 3-3 ในนัดแรก จึงต้องหาแชมป์กลุ่มด้วยกฎแฟร์เพลย์

แต่ถ้าเกิดทั้งสเปนและโปรตุเกสแพ้ด้วยสกอร์เดียวกัน 2 สนาม กรณีนี้อิหร่านจะเป็นแชมป์กลุ่ม และกระทิงกับฝอยทองต้องใช้กฎแฟร์เพลย์หาทีมเข้ารอบเป็นอันดับ 2

โปรแกรมเตะนัดสุดท้าย
อิหร่าน พบ โปรตุเกส
สเปน พบ โมร็อกโก

กลุ่มซี กลุ่มนี้ ฝรั่งเศส ที่มี 6 แต้ม เข้ารอบแน่นอนแล้ว นัดสุดท้ายเจอ เดนมาร์ก ที่มี 4 คะแนน

หากทีมโคนมชนะจะเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม ถ้าเสมอก็เข้ารอบเป็นอันดับ 2

แต่กรณีเดนมาร์กแพ้ และ ออสเตรเลีย ที่มี 1 แต้มไปชนะ เปรู ที่ยังไม่มีคะแนน ต้องมาดูสกอร์ของทั้ง 2 สนาม เนื่องจากจิงโจ้กับโคนมเสมอกันมา 1-1 ถ้าเดนมาร์กแพ้ 0-1 และออสเตรเลียชนะ 1-0 ผลต่างประตู 2 ทีมจะเป็น 0 เท่ากัน แต่จิงโจ้จะเข้ารอบเพราะประตูยิงได้มากกว่า

โปรแกรมเตะนัดสุดท้าย
เดนมาร์ก พบ ฝรั่งเศส
ออสเตรเลีย พบ เปรู

กลุ่มดี โครเอเชีย มี 6 แต้ม เข้ารอบแน่นอนแล้ว ส่วน อาร์เจนตินา ที่มีแต้มเดียว ยังได้ลุ้นต่อลมหายใจในนัดสุดท้ายกับ ไนจีเรีย ที่มี 3 คะแนน ขณะที่ ไอซ์แลนด์ ซึ่งมีคะแนนเดียวเช่นกันก็ยังมีลุ้นในนัดสุดท้ายกับโครแอต

ถ้าไนจีเรียชนะ จะเข้ารอบตามโครเอเชียทันที แล้วไปลุ้นผลอีกสนามเพื่อดูว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม

แต่ฟ้า-ขาวนอกจากจะต้องชนะ “อินทรีมรกต” ให้ได้แล้ว ยังต้องลุ้นให้ไอซ์แลนด์แพ้หรือเสมอไนจีเรีย

หรือกรณีที่ทั้งอาร์เจนฯและไอซ์แลนด์ต่างชนะเหมือนๆ กัน ฝั่งฟ้า-ขาวต้องชนะด้วยผลต่างประตูที่ดีกว่า

ส่วนไอซ์แลนด์ต้องเอาชนะโครเอเชีย แล้วลุ้นให้ไนจีเรียแพ้ฟ้า-ขาวด้วยผลต่างที่แย่กว่า จึงจะเข้ารอบตามทีมตาหมากรุกไป

แต่กรณีที่อีกสนามเสมอกัน “ยักษ์น้ำแข็ง” ต้องชนะโครแอตให้มากกว่า 3 ประตูจึงจะเข้ารอบ

โปรแกรมเตะนัดสุดท้าย
ไนจีเรีย พบ อาร์เจนตินา
ไอซ์แลนด์ พบ โครเอเชีย

กลุ่มอี แชมป์โลก 5 สมัย บราซิล มี 4 คะแนนเท่า สวิตเซอร์แลนด์ แต่ผลต่างประตูดีกว่า

นัดสุดท้ายแซมบ้าแค่เสมอ เซอร์เบีย จะเข้ารอบทันที

ส่วนทีมแดนนาฬิกาถ้าชนะหรือเสมอ คอสตาริกา ก็จะเข้ารอบเช่นกัน โดยดูที่ผลต่างประตูเปรียบเทียบกับบราซิล

แต่ถ้าทั้ง 2 ทีมแพ้ทั้งคู่ ก็จะต้องวัดกันที่ผลต่างประตูว่าทีมไหนจะเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มตามแข้งเซิร์บ

ส่วนเซอร์เบียที่มี 3 แต้ม หากหวังเข้ารอบ ต้องชนะบราซิล หรือถ้าเสมอก็ต้องลุ้นให้สวิตเซอร์แลนด์แพ้คอสตาริกาด้วย

ซึ่งกรณีที่ทั้งเซอร์เบียและสวิตเซอร์แลนด์ชนะ บราซิลก็มีสิทธิตกรอบเช่นกัน

โปรแกรมเตะนัดสุดท้าย
บราซิล พบ เซอร์เบีย
สวิตเซอร์แลนด์ พบ คอสตาริกา

กลุ่มเอฟ กลุ่มนี้ทุกทีมยังมีโอกาสเข้ารอบและตกรอบทั้งหมด

เม็กซิโก ที่มี 6 คะแนน ขอแค่เสมอ สวีเดน ในนัดสุดท้าย ก็จะเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มทันที

ส่วนไวกิ้งกับ เยอรมนี นั้นมี 3 แต้มเท่ากัน นัดสุดท้าย สวีเดนเจอจังโก้ อินทรีเหล็กเจอ เกาหลีใต้ กรณีที่สวีเดนหรือเยอรมนีชนะ ต้องลุ้นให้อีกฝ่ายเสมอหรือแพ้ในอีกคู่หนึ่ง หรือถ้าแค่เสมอก็ลุ้นให้อีกฝ่ายแพ้

แต่ก็ยังมีกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์ “งูกินหาง” ถ้าสวีเดนชนะเม็กซิโก และเยอรมนีชนะเกาหลีใต้ ทั้ง 3 ทีมจะมี 6 แต้มเท่ากันหมด ต้องวัดกันที่ผลต่างประตู

ส่วนเกาหลีใต้นั้น หากหวังเข้ารอบนอกจากจะต้องชนะแชมป์เก่าให้ได้แล้วลุ้นให้สวีเดนแพ้จังโก้ ทำให้ 3 ทีมมี 3 แต้มเท่ากันหมด วัดกันด้วยผลต่างประตูเช่นกัน

กลุ่มนี้มีโอกาสต้องเปิดเงื่อนไขวุ่นวาย ถ้าเกาหลีชนะเยอรมนี และเม็กซิโกชนะสวีเดน 1-0 เท่ากัน 2 สนาม เพราะ 3 ทีมที่มี 3 แต้มจะมีผลต่างและประตูยิงได้เท่ากัน เมื่อตัดสินด้วยมินิลีก เกาหลีจะตกรอบเพราะประตูยิงได้น้อยกว่าเพื่อน ส่วนอินทรีเหล็กเข้ารอบเพราะชนะไวกิ้งมา ผลเฮดทูเฮดจึงเหนือกว่า

กรณีเยอรมนีและสวีเดนต่างชนะ 1-0 เท่ากัน 3 ทีมจะมี 6 แต้ม คราวนี้เป็นเม็กซิโกที่ตกรอบ เพราะนับมินิลีกแล้ว ประตูยิงได้น้อยกว่าเพื่อน

โปรแกรมเตะนัดสุดท้าย
เม็กซิโก พบ สวีเดน
เยอรมนี พบ เกาหลีใต้

กลุ่มจี กลุ่มนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เบลเยียม กับ อังกฤษ กอดคอเข้ารอบไปแล้ว นัดสุดท้ายจะเจอกันเองเพื่อแย่งแชมป์กลุ่ม

เนื่องจากสถิติทุกอย่างเท่ากันหมด ใครชนะในนัดสุดท้ายจะเป็นแชมป์กลุ่มทันที แต่กรณีที่เสมอกัน ต้องตัดสินด้วยกฎแฟร์เพลย์สถานเดียวเท่านั้น

โปรแกรมเตะนัดสุดท้าย
ตูนิเซีย พบ ปานามา
อังกฤษ พบ เบลเยียม

กลุ่มเอช ตอนนี้มี โปแลนด์ ทีมที่มีแรงกิ้งสูงสุดของกลุ่มเพียงทีมเดียวที่ตกรอบ ส่วนอีก 3 ทีมยังมีโอกาสเข้ารอบด้วยกันทั้งสิ้น

โดย ญี่ปุ่น ซึ่งจะเจอกับโปแลนด์ กับ เซเนกัล ซึ่งจะเจอกับโคลอมเบีย ต่างมี 4 แต้มและสถิติทุกอย่างเท่ากัน ขอแค่เสมอจะเข้ารอบทันที หรือต่อให้แพ้ก็ยังมีสิทธิเข้ารอบ ถ้าอีกฝ่ายแพ้ด้วยผลต่างที่มากกว่า

ส่วน โคลอมเบีย ที่มี 3 คะแนน นัดสุดท้ายต้องชนะเซเนกัลเพื่อตีตั๋วเข้ารอบโดยไม่ต้องสนใจว่าผลแข่งอีกคู่จะเป็นอย่างไร

โปรแกรมเตะนัดสุดท้าย
ญี่ปุ่น พบ โปแลนด์
โคลอมเบีย พบ เซเนกัล

พิจารณาจากเงื่อนไขข้างต้นแล้ว มีบางกลุ่มที่อาจต้องวัดกันถึงขั้นนับใบเหลืองใบแดง หรือแม้กระทั่งจับสลากวัดดวงกันไปเลยก็เป็นได้!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image