ตัดเกรด 5 ทีมเอเชีย หลังรูดม่านลาฟุตบอลโลก2018

ฟุตบอลโลก 2018 สำหรับทีมจากเอเชียได้ปิดฉากลงเรียบร้อยแล้ว ญี่ปุ่น เป็นทีมสุดท้ายที่ร่วงตกรอบไปอย่างเจ็บปวด ด้วยฝีเท้าของ เบลเยียม เต็งแชมป์ ขณะที่ ออสเตรเลีย, ซาอุดีอาระเบีย, อิหร่าน, เกาหลีใต้ กลับบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้เวลาสรุปผลงานและตัดเกรดทุกทีมจากเอเชียกันแล้ว

  • เกาหลีใต้ (เกรด C+)
    ฟุตบอลโลกครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดของทีมโสมขาว เพราะแพ้ สวีเดน กับ เม็กซิโก ตกรอบแรกไปแบบไม่ได้ลุ้น ทั้งๆ ที่เป็นทีมความหวังสูงสุดของชาวเอเชีย จากผลงานในอดีต และซุปเปอร์สตาร์หลายคน ทั้ง ซอน เฮือง มิน จากทอตแนมฮอตสเปอร์ กี ซองเยือง มิดฟิลด์ตัวเก๋าจากสวอนซี และ คู จาชอล จากเอาช์บวร์ก
    2 แมตช์แรกของเกาหลีใต้ แพ้สวีเดน 0-1 แพ้เม็กซิโก 1-2 แต่มาสร้างชื่อด้วยการทำเซอร์ไพรส์ชนะ “แชมป์เก่า” เยอรมนี 2-0 แบบช็อกโลก แถมยังฉุดทีมอินทรีเหล็กกลับบ้านไปแบบเจ็บปวด กลายเป็นทีมจากเอเชียทีมแรกที่ชนะเยอรมนีได้ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
    เกาหลีใต้เป็นแรงบันดาลใจให้กับชาติเอเชียว่า สามารถชนะทีมไหนก็ได้ ถ้ามีความมุ่งมั่นและเตรียมทีมมาดีพอ
    • ออสเตรเลีย (เกรด C)
      เป็นทีมเดียวจากโซนเอเชียที่ไม่สามารถเก็บชัยชนะในฟุตบอลโลกได้ ถึงแม้ว่าฟอร์มการเล่นจะแข็งแกร่งต่อกรกับทีมร่วมกลุ่มได้อย่างสูสี ประเดิมเกมแรกกับ ฝรั่งเศส น่ามีแต้ม สู้กันอย่างสนุก แพ้เพราะ 1 จุดโทษ และทำเข้าประตูตัวเอง แพ้ไป 1-2 เกมต่อมาเสมอ เดนมาร์ก 1-1 ปิดฉากด้วยการแพ้ เปรู 0-2
      อย่างไรก็ตาม 2 ประตูที่ออสเตรเลียยิงได้ มาจากจุดโทษทั้งหมด ยิงเข้ากรอบ 3 เกมรวม 8 ครั้งเท่านั้น ปัญหาหลักมาจากการไม่มีตัวจบสกอร์ที่พึ่งพาได้
      ออสซี่แข็งแกร่งในรอบคัดเลือกของโซนเอเชีย แต่ในรอบสุดท้าย ยังต้องเด็ดขาดกว่านี้อีกเยอะ
  • ซาอุดีอาระเบีย (เกรด C-)
    มาเล่นฟุตบอลโลกหนนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี เปิดหัวนัดแรกก็โดน “เจ้าภาพ” รัสเซียถล่ม 5-0 แล้ว ถูกคาดการณ์ว่าเกมกับอุรุกวัยและอียิปต์คงโดนกะซวกประตูเป็นว่าเล่น แต่ตรงกันข้าม แมตช์ต่อมาเล่นแพ้อุรุกวัย 0-1 ถ้าไม่ได้ความสุดยอดของหลุยส์ ซัวเรซ ในเกมที่ 100 ของเขากับทีมชาติล่ะก็ อุรุกวัยน่าจะได้แค่แต้มเดียวไปแล้ว
    ถึงแม้จะตกรอบแรกไปก่อน แต่เกมสุดท้ายกับอียิปต์ของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซาอุฯเก็บ 3 แต้มกลับบ้านได้ ชนะไป 2-1 ถึงจะมีจังหวะจุดโทษแบบไม่น่าได้ก็ตาม
    ทีมเศรษฐีน้ำมันมาแบบไม่คาดหวังอะไรอยู่แล้ว การคว้าชัยชนะได้อีกครั้งในรอบ 20 ปีก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
    • อิหร่าน (เกรด B+)
      แค่ผลจับสลากแบ่งกลุ่มออกมาก็เห็นสภาพแล้วว่าอิหร่านน่าจะกลับบ้านตั้งแต่รอบแรกแบบสะบักสะบอม โปรตุเกส, สเปน, โมร็อกโก เหนือกว่าอิหร่านอย่างไม่ต้องสงสัย
      นัดแรกก็มีเซอร์ไพรส์แล้ว เพราะเชือดโมร็อกโกที่มีนักเตะเล่นอยู่ในยุโรปมากมาย 1-0 เปิดโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่ยังมีเกมหนักรออยู่อีก 2 แมตช์ นัดต่อมาแพ้สเปน 0-1 แบบสู้ได้ และนัดสุดท้ายยิงจุดโทษตีเสมอโปรตุเกส 1-1 เฉียดเข้ารอบแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ถ้าสเปนไม่ยิงตีเสมอโมร็อกโกในช่วงทดเจ็บ อิหร่านจบอันดับ 3 ของกลุ่ม เก็บได้ถึง 4 แต้ม น้อยกว่าสเปนและโปรตุเกสที่เข้ารอบไปเพียงแต้มเดียว
      อิหร่านชุดนี้เป็นทีมที่มีอนาคต มีโอกาสก้าวขึ้นมาครองเจ้าเอเชียได้ในเร็วๆ นี้
  • ญี่ปุ่น (เกรด B)
    ญี่ปุ่นเป็นทีมที่น่าเสียดายที่สุดในฟุตบอลโลกหนนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ในครั้งแรก รอบแรกประเดิมชนะ โคลอมเบีย ที่เต็มไปด้วยนักเตะชื่อดังหลายคน 2-1 ฮาเมส โรดริเกซ, ราดาเมล ฟัลเกา, ฮวน กวาดราโด้, ดาวิด ออสปิน่า ซึ่งก็ต้องบอกว่าญี่ปุ่นโชคดีที่โคลอมเบียโดนใบแดงเหลือ 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 3 และได้จุดโทษในจังหวะเดียวกัน
    เกมต่อมาไล่ตีเสมอ เซเนกัล 2-2 แบบสนุก โอกาสเข้ารอบสดใส เพราะนัดสุดท้ายเจอกับ โปแลนด์ ที่ตกรอบไปแล้ว เกมกับโปแลนด์ เมื่อญี่ปุ่นรู้ว่าเซเนกัลโดนโคลอมเบียนำ อีกสนามหนึ่ง พวกเขาเล่นกันแบบระวังตัว เพื่อไม่ให้โดนใบเหลือง ใบแดง จนคะแนนแฟร์เพลย์เป็นรองเซเนกัล รูปแบบการเล่นไม่สวยงาม และเอาตัวรอดเข้ารอบ 16 ทีมด้วยผลแฟร์เพลย์ที่ได้ใบเหลืองน้อยกว่าเซเนกัลเท่านั้น
    การเจอกับเบลเยียมในรอบ 16 ทีม เกมนี้คาดว่าตัวเต็งจากยุโรปน่าจะสอนบอลทีมจากเอเชียทีมเดียวที่เหลืออยู่ แต่ไม่ใช่แบบนั้น ทีมปลาดิบนำก่อน 2-0 แต่สุดท้ายก็ยันไม่อยู่ แพ้ไปแบบเจ็บปวด 2-3 ปิดฉากในรอบ 16 ทีมเป็นครั้งที่ 3 ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
    ญี่ปุ่นแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ขยับไปสู้กับทีมจากอเมริกาใต้และยุโรปได้สูสีมากกว่าเก่า และยังยิงประตูได้ถึง 6 ลูก มากที่สุดในฟุตบอลโลกทุกครั้งที่ผ่านเข้ามาเล่นอีกด้วย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image