เป็นเรื่องปกติที่ทีมผลงานแย่ๆ ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลจะต้องสังเวยด้วยการปลดหัวหน้าผู้ฝึกสอนออกจากตำแหน่ง ฟุตบอลโลก 2018 ที่มีทีมตกรอบไปแล้ว 24 ทีม ก็มีเฮดโค้ชที่ตกงานไปหลายคนแล้วเช่นกัน และบางคนก็รอวันถูกพิพากษาอยู่
เอาจริงๆ แล้ว ทัวร์นาเมนต์นี้มีการปลดกุนซือแบบช็อกโลกตั้งแต่ก่อนจะเริ่มแข่งกันเลยทีเดียว ยูเลน โลเปเตกี ที่ทำทีมชาติสเปนเข้ามาแข่งขันครั้งนี้แบบยังไม่เคยแพ้ใครมาแล้ว 20 นัด ทั้งในรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก และนัดอุ่นเครื่อง
อย่างไรก็ตามจากการที่เขาไปรับงานเป็นกุนซือ รีล มาดริด ก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มแค่ไม่กี่อึดใจ ทำให้สหพันธ์ฟุตบอลสเปนประกาศปลดเขากลางอากาศ และตั้ง เฟร์นันโด เอียร์โร่ มาทำหน้าที่แทน สเปนกำลังหาเฮดโค้ชคนใหม่ เพราะเอียร์โร่เป็นแค่กุนซือขัดตาทัพเท่านั้น
เอคตอร์ คูเปร์ หัวหน้าโค้ชอียิปต์กลายเป็นกุนซือคนแรกของฟุตบอลโลก 2018 ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังจากตกรอบแรกแบบไม่มีคะแนน ถึงแม้จะพาทีมเข้ารอบฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายครั้งแรกในรอบ 28 ปีก็ตาม อย่างไรก็ตามคูเปร์กำลังจะหมดสัญญาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าอยู่แล้วด้วย
โฮเซ่ เปเกร์มัน กุนซือโคลอมเบียที่พาทีมแพ้อังกฤษในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็ไม่ได้อยู่ทำหน้าที่ต่อแล้ว หลังจากทำงานมา 6 ปีเต็ม โดยตัวเต็งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะสหพันธ์ฟุตบอลโคลอมเบียเล็งไว้ที่ ริคาร์โด้ กาเรก้า เฮดโค้ชของเปรู ที่ทำทีมเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี รวมทั้ง ฮวน คาร์ลอส โอโซริโอ โค้ชชาวโคลอมเบียนที่คุมทัพเม็กซิโก จอดป้ายรอบ 16 ทีมนั่นเอง
ญี่ปุ่นที่เกือบสร้างเซอร์ไพรส์เข้ารอบ 8 ทีมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่โดนเบลเยียมยิงแซงชนะไป 3-2 ไม่ต่อสัญญา อากิระ นิชิโนะ แน่นอนแล้ว หลังจากที่สัญญาจะหมดลงในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ โดยทีมปลาดิบเล็งไปที่ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ อดีตนักเตะทีมชาติเยอรมนี ที่เคยคุมทั้งทีมชาติเยอรมนีและสหรัฐอเมริกามาแล้ว
ฮอร์เก้ ซัมเปาลี กุนซืออาร์เจนตินาเป็นคนที่มีข่าวคราวด้านลบมากที่สุดคนหนึ่งในเวิลด์คัพหนนี้ ทีมฟ้า-ขาวต้องดิ้นรนอย่างหนักกว่าจะเข้ารอบ 16 ทีมไปได้ นัดแรกเสมอไอซ์แลนด์ 1-1 นัดต่อมาแพ้โครเอเชียเละเทะ 0-3 ต้องมาลุ้นเข้ารอบด้วยการชนะไนจีเรียในนัดสุดท้าย แต่ก็โดนฝรั่งเศสเขี่ยตกรอบ 16 ทีมไปอีก
ซัมเปาลีไม่ได้รับการยอมรับจากลูกทีม และมีข่าวว่านักเตะขอจัดทีมกันเองในเกมกับไนจีเรียเป็นต้นมา ถึงแม้สหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนตินาจะออกมาปฏิเสธข่าวนี้ แต่ปฏิกริยาของนักเตะในทีม และแฟนบอลอาร์เจนไตน์ก็ไม่ต้องการให้เขาทำทีมต่อไปอีกแล้ว
ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานนักเตะทีมฟ้า-ขาว เอ่ยปากรับหน้าที่นี้เอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตามริคาร์โด้ กาเรก้า ที่หมดหน้าที่กับเปรู ก็เป็นตัวเต็งกุนซือฟ้า-ขาวคนใหม่เช่นกัน แต่มีข่าวว่าอาร์เจนตินาต้องการ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มารับงานมากที่สุด
โยอาคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมนี เป็นคนที่ทำผลงานน่าผิดหวังมากที่สุด ตกรอบแรกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่จากการที่เพิ่งต่อสัญญาออกไปจนถึงปี 2022 ก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่ม และบุญเก่าที่เคยพาทีมเป็นแชมป์โลก เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทำให้ชะตาของเขายังไม่ขาด และเจ้าตัวก็ตัดสินใจทำหน้าที่ต่อ เพื่อสร้างทีมใหม่ไปลุ้นแชมป์ยูโร 2020 และฟุตบอลโลก 2022 ต่อไป
สมาคมฟุตบอลโปแลนด์ประกาศแยกทางกับ อดัม นาวาลก้า เฮดโค้ชทันทีหลังจากโปแลนด์ตกรอบแรกและกลับถึงบ้าน ทั้งๆ ที่มีนักเตะชั้นดีมากมายในทีม สมาคมฟุตบอลโปแลนด์ให้เหตุผลว่า ต้องการสร้างทีมในหนทางใหม่
เกอร์น็อต โรห์ เฮดโค้ชชาวเยอรมันยังมีสัญญากับไนจีเรียจนถึงปี 2020 แต่ก็มีหลายทีมใรทวีปแอฟริกาพยายามจะฉีกสัญญาดึงเขาไปทำทีม อย่างไรก็ตามโรห์ได้ยืนยันว่าจะทำทีมไนจีเรียต่อไปจนครบสัญญา
ออสการ์ รามิเรซ ได้รับการยืนยันจากสหพันธ์ฟุตบอลคอสตาริกาว่าไม่ให้ทำหน้าที่ต่อ อาลิอู ซิสเซ่ ของเซเนกัลก็ทำทีมได้น่าพอใจ ตกรอบเพราะกฎแฟร์เพลย์ น่าจะยังได้ทำหน้าไปอีกยาวๆ การ์ลอส เกยรอซ มีข่าวจะลาออกจากตำแหน่งกุนซืออิหร่านมาตลอด
แต่ฟุตบอลโลกหนนี้ อิหร่านเก็บชัยชนะกลับบ้านได้ เก้าอี้ของเขาน่าจะมั่นคง เว้นแต่ว่าจะไปรับงานคุมทีมอื่น สหรัฐอเมริกาก็เล็งเขาไว้เช่นกัน สหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบียต่อสัญญากับ ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี่ ออกไปอีกจนจบการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ ในเดือนมกราคม ปีหน้า
กุนซือที่น่าจะได้อยู่ทำทีมต่อแน่นอนมีหลายคน เอร์นัน ดาริโอ โกเมซ เฮดโค้ชที่พาปานามามาเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก มลาเดน เคิร์สตายิช ของเซอร์เบียที่เพิ่งมารับงานเมื่อปลายปีที่แล้ว ชิน แทยอง ที่พาเกาหลีใต้ชนะเยอรมนีได้
ไฮเมียร์ ฮัลกริมส์สัน หมอฟันที่สามารถปลุกปั้นไอซ์แลนด์จนมาเล่นในยูโรและฟุตบอลโลกได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง แฟร์นานโด ซานโต๊ส ก็ไม่มีข่าวคราวว่าจะโดนสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกสไล่ออก
ท้ายที่สุด อาจจะมีการปลด เปลี่ยน หรือปรับกันอีก เพราะโลกฟุตบอลไม่ได้หยุดนิ่ง แต่การได้เป็นโค้ชที่ยืนอยู่ในสังเวียนฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ย่อมการันตีว่าคนเหล่านี้เคยเป็น 1 ใน 32 กุนซือที่ดีที่สุดของโลกฟุตบอลยุคหนึ่งมาแล้ว
