อังกฤษปราบสวีเดน 2-0 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 ที่ซามาร่า อารีน่า เมืองซามาร่า ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นการเข้ารอบลึกที่สุดตั้งแต่ปี 1990 ของทีมสิงโตคำราม
รายชื่อ 11 ตัวจริงอังกฤษ : ผู้รักษาประตู จอร์แดน พิคฟอร์ด / กองหลัง จอห์น สโตน, คีแรน ทริปเปียร์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ไคล์ วอล์คเกอร์, แอชลีย์ ยัง / กองกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เดลเล่ อัลลี่, เจสซี่ ลินการ์ด / กองหน้า แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
รายชื่อ 11 ตัวจริง : ผู้รักษาประตู โรบิน โอลเซ่น / กองหลัง วิคเตอร์ ลินเดอร์เลิฟ, อันเดรียส กรันควิสต์, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน, เอมิล คราฟธ์ / กองกลาง เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อัลบิน เอคดาล, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, วิคเตอร์ คลาเอสสัน / กองหน้า มาร์คุส เบิร์ก, โอล่า ทอยโวเน่น
ครึ่งแรก 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังหยั่งเชิงกัน บอลยังไปถึงเขตโทษของคู่แข่งน้อย นาทีที่ 12 วิคเตอร์ คลาเอสสันซัดไกลทักทายก่อน ลูกเหินข้ามคานออกไป นาทีที่ 19 สเตอร์ลิ่งลากบอลขึ้นมาจากทางกราบขวาก่อนตบเข้าในให้เคนรับบอลแล้วยิงเรียด บอลถากเสาออกไป นาทีที่ 24 ลินการ์ดผ่านบอลให้ทริปเปียร์ที่อยู่ริมเส้น ตบบอลเข้าให้เคนหน้าประตู แต่โดนกองหลังสวีเดนเคลียร์ออกไปก่อน อังกฤษครองเกมได้มากกว่าชัดเจน แข้งสิงโตคำรามใช้บอลโยนเล่นงาน
จนถึงนาทีที่ 30 ยังเปิดลูกเตะมุม แม็คไกวร์กระโดดโขกตุงตาข่าย อังกฤษนำ 1-0 หลังโดนนำสวีเดนก็ยังหาโอกาสตีเสมอไม่ได้ สิงโตคำรามยืนตำแหน่งกันได้ดี และมีลุ้นยิงประตูเพิ่ม นาทีที่ 45 เฮนเดอร์สันจ่ายบอลให้สเตอร์ลิ่งหลุดเดี่ยวไปดวลกับโรบิน โอลเซ่น แต่ไม่มีมุมยิง และไม่จ่ายให้เคนที่ยืนรออยู่ แล้วยิงแฉลบกองหลังออกไป จบครึ่งแรกอังกฤษนำ 1-0
ครึ่งหลัง สวีเดนเปิดเกมรุกใส่ทันที นาทีที่ 47 มาร์คุส เบิร์ก เบียดกับยังขึ้นโหม่งบอลเกือบเสียบเสา พิคฟอร์ดบินซุปเปอร์เซฟไปได้ อย่างงไรก็ตามอังกฤษไม่ได้ตั้งรับ ยังเน้นเกมบุกเช่นกัน โดยเฉพาะการเล่นลูกเซตพีซที่ได้ลุ้น นาทีที่ 59 ลินการ์ดเปิดบอลเข้าเขตโทษ อัลลี่โหม่งจ่อๆ สิงโตคำรามนำ 2-0 นาทีที่ 62 สวีเดนบุกขึ้นมาอีกระลอก เบิร์กได้จังหวะวิ่งเข้ามาซัดจ่อๆ หน้าประตูอังกฤษ พิตฟอร์ดยังปัดไว้ได้อีกครั้ง แม้จะได้ซ้ำแต่นักเตะอังกฤษยังเข้ามาช่วยกันป้องกันได้ นาทีที่ 66 บอลเข้ามาใจเขตโทษสวีเดน และกลิ้งมาเข้าทางแม็คไกวร์วิ่งเข้ามากดข้ามคานไป
นาทีที่ 72 สวีเดนเกือบตีไข่แตกได้ ยอห์น กุยเดตติ กองหน้าตัวสำรองล้มตัวกวาดบอลลูกพุ่งเข้ากรอบ พิคฟอร์ดกระโดดปัดข้ามคานออกไป เวลาที่เหลือทัพไวกิ้งยังเดินหน้าบุก อังกฤษก็พาบอลขึ้นมาลุ้นได้บ้าง แต่ไม่มีทีมไหนยิงได้ จบเกมอังกฤษชนะ 2-0 ผ่านเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่างโครเอเชีย – รัสเซีย ในรอบรองชนะเลิศ และถือเป็นการเข้ารอบลึกที่สุด นับตั้งแต่ได้อันดับ 4 ในฟุตบอลโลก 1990 ที่ประเทศอิตาลี
