การรอคอย 16 ปีที่ “ยังไม่สิ้นสุด” อีกครั้งที่แชมป์โลกไม่ใช่ “บราซิล”

บราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว 5 สมัย ทำสถิติเป็นแชมป์มากที่สุด รวมทั้งเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ครองโลกลูกหนัง 3 สมัย จนได้ครองถ้วยฌูลส์ ริเม่ต์ ซึ่งเป็นถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกเก่าแก่ไปครอง แต่ถ้านับย้อนหลังไป จากแชมป์ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2002 จนถึงตอนนี้ทีมแซมบ้าห่างหายจากแชมป์โลกมาแล้วถึง 16 ปีเต็ม

บราซิลแพ้ เบลเยียม 1-2 ในรอบ 8 ทีม ฟุตบอลโลก 2018 กลับบ้านไปแบบบอบช้ำ อาจจะไม่เท่าในฟุตบอลโลก 2014 ที่โดน เยอรมนี ถล่มคาบ้าน 7-1 ในรอบรองชนะเลิศ แต่ก็เป็นเรื่องที่แฟนบอลรับไม่ได้อยู่ดี

ทีมแซมบ้าถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ฟุตบอลโลกเกือบทุกยุคทุกสมัย แต่ในหลายปีหลังต้องยอมรับว่า มนต์เสน่ห์และความขลังของฟุตบอลแซมบ้าไร้ความน่าเกรงขามไปจากเดิมมาก ถึงแม้ ติเต้ กุนซือของทีมจะพยายามใส่ฟุตบอลสไตล์บราซิลกลับไปสู่ทีมมากขึ้น แต่ในเกมสำคัญ บราซิลในยุคหลังไม่มีความเด็ดขาด และไม่ได้เป็นทีมที่สร้างมาเพื่อเป็นแชมป์เหมือนยุคก่อนๆ

ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้น เนย์มาร์ สตาร์เบอร์ 1 ของบราซิล ได้รับบาดเจ็บกระตูกเท้าแตกจนห่วงกันว่าเขาจะหายไม่ทันมาโชว์ฝีเท้า แต่ที่สุดก็กลับมาทันจนได้ แต่บราซิลชุดนี้เครื่องร้อนช้า ไม่เร้าใจ กว่าจะยิงประตูได้ต้องลุ้นกันหนัก เนย์มาร์ไม่สามารถปล่อยของได้เต็มที่ ต้องให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ มายิงประตูกู้หน้าในหลายนัด กาเบรียล เชซุส อีกตัวความหวังก็ไม่มีพิษสงแม้แต่น้อย ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว

Advertisement

อีกประเด็นที่บราซิลถูกวิจารณ์อย่างหนัก คือ แอคชั่นของเนย์มาร์ในการถูกทำฟาวล์แต่ละครั้ง ดูรุนแรงเกินกว่าความเป็นจริง เพื่อเรียกฟรีคิก จุดโทษ และการลงโทษนักเตะคู่แข่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อแทคติคนี้ช่วยสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้ ก็ย่อมมีผลเสียด้วยเช่นกัน

เพราะในเกมแพ้เบลเยียม แม้เขาจะใช้การลากบอลเข้าไปในเขตโทษ แล้วล้มลง กลับไม่สามารถเรียกจุดโทษได้ หรือจังหวะที่เชซุสโดน แว็งซอง กอมปานี กองหลังเบลเยียมย่ำข้อเท้า ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากกรรมการแม้แต่น้อย

Advertisement

อลัน เชียร์เรอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ แสดงความเห็นว่า การพุ่งของเนย์มาร์แบบที่ไม่ควรจะทำส่งผลให้ทีมไม่ได้จุดโทษหลายๆ ครั้ง ในจังหวะของเชซุส เป็นจุดโทษแน่นอน แต่ผู้ตัดสินไม่เรียกดูแม้แต่วีเออาร์ เนย์มาร์ทำให้ทีมโดนลงโทษจากการกระทำของเขาแท้ๆ

เช่นเดียวกับ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ กองหน้าระดับตำนานของทีมชาติเยอรมนี ยืนยันว่า จังหวะที่เชซุสโดนเหยียบต้องเป็นจุดโทษ แต่ทีมวีเออาร์รายงานอะไรกับผู้ตัดสิน? หรือพวกเขาจะเอาคืนจากการพุ่งล้มของเนย์มาร์?

ทีมแชมป์โลก 5 สมัยมีข้อบกพร่องก็จริง แต่ทางกลับกันต้องยกเครดิตให้กับเบลเยียม ที่เตรียมแผนการเล่นมาอย่างเยี่ยมยอด และใช้โอกาสคุ้มค่ากว่าอย่างชัดเจน

“ทีมของเราครองบอลได้มากมาย และมีโอกาสยิงประตูมากจริงๆ แต่เบลเยียมสามารถเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้ดีกว่า พวกเขามีนักเตะเยี่ยมยอดในทีมหลายคน ธิโบต์ กูร์ตัวส์ สร้างความแตกต่างให้กับ 2 ทีม ถ้าคุณชอบฟุตบอล คุณจะต้องดูเกมนี้ มันจะสร้างความสุขให้คุณอย่างมาก” กุนซือทีมชาติบราซิลกล่าว

ความพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้ชาวบราซิเลียนจำนวนมาก ต้องก้มหน้าก้มตาผิดหวังและไปดิ้นรนกับชีวิตที่ยากลำบากกันต่อไป เพราะฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬาสำหรับชาวแซมบ้า มันอยู่ในจิตใจและความรู้สึก


สถิติที่น่าสนใจของทีมชาติบราซิล

– บราซิลตกรอบฟุตบอลโลก 4 ครั้งสุดด้วยการแพ้ทีมจากยุโรปทั้งสิ้น ปี 2006 แพ้ฝรั่งเศส, ปี 2010 แพ้เนเธอร์แลนด์, ปี 2014 แพ้เยอรมนี, ปี 2018 แพ้เบลเยียม
– แฟร์นันดินโญ่เป็นนักเตะบราซิลคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ที่ทำเข้าประตูตัวเอง ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ต่อจากมาร์เซโล่ ที่ทำไว้เมื่อฟุตบอลโลก 2014
– บราซิลเสียประตูมากกว่า 1 ลูก เป็นครั้งแรกใน                                                                                                  รอบ 30 แมตช์ รวมทุกทัวร์นาเมนต์

                                                                                           – ติเต้ทำทีม 26 นัด ชนะ 20 เสมอ 4 แพ้ไปเพียง                                                                                                 2 นัด เสียไป 8 ประตู ยิงได้ 53 ประตู


ชูเลีย เมเยอร์ สาววัย 32 ปีบอกว่า หลังจากวันนี้ไป ก็ต้องกลับไปกังวลกับเรื่องสุขภาพและการศึกษากันต่อไป เพราะไม่ต้องมาพะวงกับการเชียร์ทีมชาติให้เป็นแชมป์โลกแล้ว

โจเอลมา ซัลดานญ่า นักวิจัยในห้องแลบ เปรียบฟุตบอลโลกครั้งนี้ว่า มันไม่ใช่แค่เกมเกมหนึ่ง เพราะมันคือบราซิล ทุกคนต้องเล่นเพื่อโลกที่ดีกว่า

บราซิลเคยห่างหายจากการเป็นแชมป์โลกมานานถึง 24 ปี แล้วพวกเขาก็กลับมาประสบความสำเร็จได้ แสดงให้เห็นว่าความผิดหวังครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image