ทีมชาติ อังกฤษ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 ด้วยการชนะ สวีเดน แบบไม่ยากเย็น 2-0 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ถือเป็นการเข้ารอบลึกที่สุด ตั้งแต่ที่เคยเข้ามาถึงรอบนี้ครั้งสุดท้ายในฟุตบอลโลก 1990 ที่ประเทศอิตาลี
เป็นที่รู้จักกันดีว่าสื่ออังกฤษและชาวอังกฤษภูมิใจกับทีมฟุตบอลของตัวเองมาก และมักจะมองว่าทีมสิงโตคำรามเป็นตัวเต็งในทุกทัวร์นาเมนต์ที่ลงแข่ง สื่อจะพาดหัวไปถึงแชมป์ แฟนก็จะฝันไปถึงการฉลองชัยก่อนทัวร์นาเมนต์เสมอ จนทำให้ถูกมองว่าแฟนบอลกับสื่อเมืองผู้ดีเป็นพวกฝันเฟื่อง เพราะตั้งแต่เป็นแชมป์ฟุตอลโลก 1966 ในบ้านตัวเองแล้ว ทีมชาติชุดใหญ่ไม่เคยมีแชมป์รายการเมเจอร์ติดมืออีกเลย
หลังจากเข้ามาถึงรอบตัดเชือก การเฉลิมฉลองได้เริ่มขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ มาลองดูกันว่า ตอนนี้แฟนบอลแะลสื่ออังกฤษคาดหวังกันขนาดไหน
ฟิล แม็คนัลตี้ ผู้สื่อข่าว บีบีซี บอกว่า การเข้ารอบรองชนะเลิศครั้งนี้เป็นประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง ซึ่งต้องยกเครดิตให้กับ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่สามารถทำทีมที่มีนักเตะประสบการณ์น้อยให้เล่นได้อย่างมั่นใจ เซาธ์เกตและนักเตะทุกคนควรได้รับคำชม ตอนนี้ความคาดหวังพุ่งสูงขึ้นไปมากแล้ว
บาร์นี่ย์ โรเนย์ นักข่าวของ เดอะ การ์เดี้ยน กล่าวว่า รถไฟสีขาวแดงพุ่งขึ้นจากรัสเซีย จุดหมายคือดวงจันทร์ นักเตะอังกฤษกำลังทะยานออกจากวงโคจรโลกแล้ว มันอาจจะน่าเวียนหัวไปหน่อย แต่มันก็ทะยานไปข้างหน้า ไปไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ ไกลออกไปจากโลกของเราแล้ว
พอล เฮย์เวิร์ด นักข่าวของ เดลี่ เทเลกราฟ แสดงความเห็นว่า แฟนบอลอังกฤษอยากเห็นทีมของเซาธ์เกทก้าวต่อไป เพราะพวกเขาเห็นกลุ่มคนที่สร้างเกียรติยศและยกระดับประเทศของตัวเอง ชัยชนะ 2 นัดที่เหลือ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงวงการกีฬาของประเทศไปอย่างสิ้นเชิง ผลงานในฟุตบอลโลก 1990 จะถูกลืมไป ซึ่งต้องบอกว่าตอนนี้คนอังกฤษได้ทยอยลืมความเจ็บปวดในอดีตของฟุตบอลทีมชาติไปแล้ว
โอลิเวอร์ โฮลท์ นักข่าว เดลี่ เมล บอกว่า ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา คนอังกฤษอาจจะพูดว่าเราเชื่อมั่นในทีมสิงโตคำราม แต่ก็ไม่ได้หมายความแบบนั้นจริงๆ เสียทีเดียว แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่า ทุกคนเชื่อมั่น และยิ่งทำให้มั่นใจเข้าไปอีกเมื่อเอาชนะสวีเดนได้ นักเตะทุกคนเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ความฝันยังดำเนินต่อไป แต่ความสำเร็จได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ หลังจากที่รอคอยแบบไม่มีความหวังมานาน เซาธ์เกทได้พาฟุตบอลกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษหลายคนออกมาไชโยโห่ร้องกันพร้อมหน้าพร้อมตาทางโซเชียล มีเดีย
แกรี่ ลินิเกอร์ กองหน้าทีมสิงโตคำราม หนึ่งในนักเตะชุดอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 1990 ทวีตภาพตัวเองคู่กับถ้วยฟุตบอลโลกจำลอง พร้อมข้อความว่า “ไอ้หนูน้อยอยากจะกลับบ้านเต็มที่แล้ว”
อลัน เชียเรอร์ ศูนย์หน้าคนสำคัญในยุค 90 ก็ทำคล้ายๆ กับลินิเกอร์ คือ โพสต์รูปถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกกับข้อความ “ไม่แน่นะ ไม่แน่ ถ้วยแชมป์อันนี้มันอาจจะกำลังกลับบ้านของมันก็ได้”
เดวิด ซีแมน นายทวารที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งในฐานะผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ ทวีตว่า “หวังว่าพิคฟอร์ด จะทำแฮตทริกในการคลีนชีตได้นะ”
นั่นหมายถึงว่า จอร์แดน พิคฟอร์ด จะไม่เสียประตู 3 นัดติดต่อกัน คือ รอบ 8 ทีมที่ชนะสวีเดนไปแล้ว 2-0 เกมรอบรองชนะเลิศ กับ โครเอเชีย และเกมรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งถ้าทำแบบนั้นได้ อังกฤษก็จะเป็นแชมป์โลกนั่นเอง
ขณะที่โซเชียล มีเดียต่างใช้ความคิดสร้างสรรค์เตรียมต้อนรับฟุตบอลกลับบ้านกันอย่างสนุกสนาน สายการบินบริติช แอร์เวย์ส สายการบินประจำประเทศ ได้โพสต์ภาพตั๋วเครื่องบินสำหรับผู้โดยสารชื่อ “ฟุตบอล” มีต้นทางที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย และจุดหมายอยู่ที่ “บ้าน” หรือประเทศอังกฤษ จะเดินทางถึงวันที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับรอบชิงชนะเลิศ และนั่งเก้าอี้หมายเลข 52H สื่อถึง 52 ปีที่อังกฤษไม่ได้แชมป์อะไรเลย หลังจากเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 1966
ส่วน อิเกีย (IKEA) บริษัทขายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสัญชาติสวีเดนออกไอเดียเก๋ๆ ด้วยการใช้ที่แขวนหมวกเปล่าๆ มาเป็นเครื่องมือแสดงความยินดีกับแข้งสิงโตคำราม ในนั้นมีข้อความระบุว่า “ขอแสดงความยินดีกับอังกฤษ และขอถอดหมวกแสดงความคารวะ”
โครเอเชียจะเป็นความหวังของแฟนบอลที่อยู่ตรงข้ามกับทีมชาติอังกฤษโดยสิ้นเชิง โดยรอบรองชนะเลิศระหว่างอังกฤษ – โครเอเชีย จะมีขึ้นในวันที่ 11 กรกฎาคม ซึ่งโครเอเชียผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ หลังจากเคยทำไว้เมื่อฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส
ฟุตบอลจะกลับถึงบ้านอย่างที่ชาวอังกฤษคาดหวังไว้หรือไม่ ตอนนี้คงยังไม่มีใครตอบได้ แต่เมื่อสิงโตสามารถคำรามดังมาได้ถึงรอบนี้ แม้จะไม่สามารถถือถ้วยแชมป์กลับบ้านได้ พวกเขาก็จะยังได้รับคำชื่นชมและจดจำอย่างไม่ต้องสงสัย
