‘ท่า’ นี้มีที่มา เฉลยเบื้องหลังท่าฉลองประตูแข้งดังเวิลด์คัพ 2018

เหลืออีกเพียง 4 นัด การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 ศึกเวิลด์คัพหนแรกบนแผ่นดินรัสเซียก็จะปิดฉากพร้อมๆ กับบทสรุปว่าใครจะได้ครองเกียรติยศสูงสุดของวงการลูกหนังโลก

ฟุตบอลโลกหนนี้ได้รับเสียงชื่นชมในแง่ของคุณภาพการแข่งขัน เนื่องด้วยผ่านมา 60 นัด มีการทำประตูกันได้เกือบทุกนัด และหลายครั้งที่เกิด “ดราม่า” ยิงประตูท้ายเกมซึ่งพลิกผลการแข่งขันได้ทันที

60 นัดที่ผ่านมา มีการทำประตูไปรวมทั้งสิ้น 157 ประตู เฉลี่ยแล้วตกนัดละ 2.6 ประตู

สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้การยิงประตูในรูปแบบต่างๆ ก็คือการลุ้นว่าคนยิงนั้นจะครีเอตท่าการฉลองประตูของตัวเองอย่างไร

Advertisement

หลายท่าออกมาดูแปลกตา และมีที่มาน่าสนใจ ซึ่งมีคนรวบรวมไว้ ดังนี้

วันทยหัตถ์ของซูบ้า – เกมเตะนัดเปิดสนามระหว่าง “เจ้าภาพ” รัสเซีย กับซาอุดีอาระเบีย อาร์ตุม ซูบ้า กองหน้าจากเซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 70 และใช้เวลาเพียง 60 วินาทีส่งบอลเข้าประตู เป็นประตูที่ 3 ของทัพหมีขาว ก่อนลงเอยด้วยชัยชนะถล่มทลาย 5-0

Advertisement

หลังทำประตูได้ ซูบ้าวิ่งดีใจไปข้างสนามตรงตำแหน่งที่กุนซือ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ ยืนอยู่พอดี ด้วยอารามตื่นเต้นกับสถานการณ์ และทึ่งในผลงานของลูกทีม เชอร์เชซอฟเลยยืนตรงแล้วยกมือขวาขึ้นตะเบ๊ะหรือทำวันทยหัตถ์ในแบบทหารเป็นการให้เกียรติและชื่นชมซูบ้า

หลังจากนัดนั้น ตอนที่แข้งวัย 29 ปี ทำประตูได้ เขาก็จะยืนตรงวางมือซ้ายบนศีรษะต่างหมวกทหาร แล้วยกมือขวาทำวันทยหัตถ์เป็นการฉลองประตูที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ตัว “แอล” ของกรีซมันน์ – ซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศส อองตวน กรีซมันน์ ทำให้หลายคนแปลกใจกับท่าประหลาดๆ เอามือข้างหนึ่งจับเป้า และอีกข้างยกขึ้นทำสัญลักษณ์ตัว L ในภาษาอังกฤษ หลังทำประตูในนัดเฉือนอาร์เจนตินา 4-3

กระทั่งมีคนเฉลยว่า กรีซมันน์ติดวิดีโอเกมงอมแงม และท่านี้ก็เป็นท่าฮิตในหมู่คนเล่นเกม ฟอร์ทไนต์ เกมต่อสู้แนวยิงล้างผลาญแบบเซอร์ไววัล เรียกว่าท่า “Take the L” หรือ “Take the loss” แปลได้ว่า “จงรับความพ่ายแพ้ไปซะ” เป็นท่าฉลองชัยในหมู่ผู้เล่นที่ชนะนั่นเอง

คางของโรนัลโด้ – เรื่องนี้ทำเอาคนสงสัยมาตั้งแต่วันแรกๆ กับท่าลูบคางของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุป’ตาร์กัปตันทีมชาติโปรตุเกสในนัดเสมอสเปน 3-3 หลายคนถึงขั้นเดากันว่าเป็นการส่งสัญญาณบอก ลิโอเนล เมสซี่ คู่ปรับสำคัญชาวอาร์เจนไตน์หรือเปล่าว่าเขาน่ะเจ๋งสุด?

เพราะตรงคางนั้น โรนัลโด้ไว้เคราแพะ ซึ่งคำว่า “แพะ” ในภาษาอังกฤษ คือ Goat นั้น เป็นคำย่อของ Greatest of All Time หรือ “เจ๋งสุดตลอดกาล” นั่นเอง

แต่ที่ไหนได้ โรนัลโด้มาเฉลยตอนหลังว่า จริงๆ ไม่มีอะไรมาก พอดีก่อนลงสนามตอนโกนหนวดได้บอกเพื่อนร่วมทีมว่า ถ้ายิงประตูได้จะถือเคล็ดไม่โกนเคราแพะ ซึ่งโด้ก็ทำแฮตทริกในเกมนั้น เลยถือโอกาสไว้ยาวจนตกรอบทีเดียว

ความกวนของไอ้หนู – ถือเป็นท่ามาตรฐานของนักเตะหลายๆ คนสำหรับการไถลไปบนผืนหญ้าหลังยิงประตูได้ แต่ท่ากอดอกกับการทำปากยื่นๆ ของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ในเกมชนะอาร์เจนตินานั้นมีความหมายเบื้องหลัง เนื่องจากตอนเล่นเกมฟุตบอล ฟีฟ่า กับพี่ชาย ถ้าเขายิงประตูได้ เอ็มบัปเป้จะทิ้งจอยแล้วกอดอกทำปากยื่นเพื่อกวนใส่พี่ และติดมาทำในสนามกับเขาด้วย

เมสซี่ขอบคุณสวรรค์ – อีกหนึ่งท่ามาตรฐานสำหรับนักเตะหลายๆ คน ซึ่งกรณีของ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดแข้งฟ้า-ขาวนั้น ท่านี้ส่วนใหญ่จะเพื่อสื่อคำขอบคุณไปถึงคุณย่า คนที่แนะนำให้เขารู้จักกีฬาฟุตบอล และคอยสนับสนุนทุกอย่างก้าวของเขาในวัยเยาว์

เมสซี่บอกว่า อุทิศประตูที่ทำได้ให้กับคุณย่า เพราะท่านไม่ได้อยู่ตรงนี้และไม่ได้เห็นว่าหลานชายก้าวไปไกลขนาดไหนแล้ว

จุมพิตจากลูกากู – หลังจากทำประตูที่สองในนัดเจอกับตูนิเซีย โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียม หันหน้าเข้าหากล้องแล้วส่งจูบ 2 ครั้ง หากอ่านปากเขาดีๆ จะเห็นว่า ลูกากูพูดว่า “mama” เพื่อส่งความรักหาคุณแม่ แม้จะเรียบง่ายแต่ได้ใจมากๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image