เดยัน ลอฟเรน ถือเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับ “ตาหมากรุก” โครเอเชีย ชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งเขามีบทบาทในการบัญชาการเกมรับช่วยพาทัพตาหมากรุกทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ลอฟเรนเริ่มค้าแข้งกับ ดินาโม ซาเกร็บ เมื่อปี 2006 แต่ช่วงแรกไม่สามารถยึดตัวจริงได้ ทำให้ถูกส่งไปเล่นกับ อินเตอร์ ซาเปรซิช ก่อนตัดสินใจย้ายออกไปเล่นกับ โอลิมปิก ลียง ในลีกฝรั่งเศส, เซาต์แฮมตัน ในลีกอังกฤษ และสร้างชื่อกับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2014
ปราการหลังวัย 29 ปีรายนี้ติดทีมชาติโครเอเชียครั้งแรกเมื่อปี 2009 แต่เขาต้องตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของกองหลังรุ่นพี่จอมแกร่งอย่าง นิโก้ โควัช จนกระทั่งในฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ลอฟเรนพัฒนาฝีเท้าก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมได้จนถึงปัจจุบัน
ผลงานของลอฟเรนในปีนี้ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตค้าแข้ง โดยลอฟเรนช่วยพาต้นสังกัด ลิเวอร์พูล ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018 และพาโครเอเชียทะลุชิงฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งนับเป็นปีทองของเขาเลยก็ว่าได้
“ผมคิดว่า ทุกคนควรจะยกย่องให้ผมเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของโลก และผมไม่ได้พูดอย่างไม่มีเหตุผลนะ แต่ผมแสดงให้เห็นว่า ผมสามารถพาทีมลิเวอร์พูลผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ และตอนนี้ผมพาชาติตัวเองผ่านเข้าชิงฟุตบอลโลกได้อีกด้วย” ลอฟเรนกล่าว
แต่ลอฟเรนคงจะลืมไปว่า ลิเวอร์พูล แพ้ รีล มาดริด 3-1 ได้เพียงรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2018 และหากเขาต้องการจะเป็นกองหลังดีที่สุดของโลกอย่างแท้จริง เขาจะต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการพาทัพโครเอเชียสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกให้ได้!
