นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ภายในหมู่บ้านนักกีฬา บริเวณย่านเคมาโยราน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม
นายวีระศักดิ์ เปิดเผยว่า การเดินมาอินโดนีเซียครั้งนี้จะมาดูใน 2 ส่วนคือ ส่วนแรกดูว่านักกีฬาไทยเข้าพักอาศัยอย่างไร มีความเป็นอยู่อย่างไร มีความปลอดโปร่งสะดวกสบายหรือไม่ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับความสามารถในการไปซ้อม และการแข่งขัน ส่วนที่สองคือเป็นการมาดูอินโดนีเซียในการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่สองในรอบ 56 ปีที่วนกลับมาจัดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเคยจัดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2505 มาดูว่าเขาได้สร้างระบบอะไรบ้างมาใช้รองรับการจัดการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์
“บางเรื่องเราอาจจะได้เรียนรู้จากอินโดนีเซียเขา เพราะว่าเขามีระบบการจัดการคล้ายๆ กับไทยที่เป็นชาติอาเซียนด้วยกัน ถ้าอินโดฯ จัดออกมาดี และเข้าท่า บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องจัดออกมาให้มันแพงก็ได้ ไทยเราอาจจะจัดรายการของเอเชียได้จากประสบการณ์ครั้งนี้ ทำให้การมาครั้งนี้ผมมา 2 ส่วนก็คือ มาเคียงข้างกับนักกีฬาไทย และมาดูส่วนที่เจ้าภาพเขาจัดการแข่งขัน ถือเป็นการให้กำลังใจกันในชาติอาเซียนด้วย” นายวีระศักดิ์กล่าว
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต่อว่า อินโดนีเซียจัดเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้เพราะช่วยรับหน้าที่จัดแทนเวียดนาม ทำให้อินโดนีเซียมีเวลาเตรียมการน้อยมากกว่าที่ได้คาดหวังไว้ ทำให้เราควรจะมีดูว่า การจัดการในภาวะพิเศษแบบนี้เขาทำอย่างไร ส่วนกระบวนการในเรื่องเงินรางวัลตามเกณฑ์กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติให้กับนักกีฬาไทยในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ก็ไม่มีการแก้ไขระเบียบกันเรียบร้อยแล้ว และจะใช้ในเอเชี่ยนเกมส์นี้เป็นครั้งแรก จากเดิมเหรียญทองได้รับเงินรางวัลเพียง 1 ล้านบาท แต่ครั้งนี้จะเพิ่มเป็นเหรียญทองละ 2 ล้านบาท เนื่องจากได้มองเห็นแล้วว่า เหรียญรางวัลเอเชี่ยนเกมส์ในหลายชนิดกีฬาได้มาค่อนข้างยาก
“บางชนิดกีฬาในเอเชี่ยนเกมส์ได้เหรียญค่อนข้างยากกว่าในโอลิมปิกเกมส์ด้วยซ้ำไป เพราะเอเชี่ยนเกมส์เปิดหมดให้กับนักกีฬาทุกชาติได้ร่วมชิงชัย ทำให้ต้องเจองานหนักมาก จึงเป็นที่มาของการเพิ่มเงินรางวัลให้กับนักกีฬาไทยหากคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ และเหรียญอื่นก็ลดหลั่นลงไป ซึ่งจำนวนนี้ก็ถือว่าการมอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬาไทยไม่น้อยหน้าชาติอื่น” รมว.วีระศักดิ์กล่าว
นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักเกณฑ์นี้ใช้ในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ก่อน ส่วนมหกรรมกีฬาระดับเอเชียรายการอื่นๆ ยังไม่ใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน สำหรับเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้มีนักกีฬาไทยเข้าร่วมชิงชัยมากกว่าครั้งก่อนจนถือเป็นทัพนักกีฬาชุดใหญ่ เนื่องจากเป็นโอกาสให้นักกีฬาทุกกลุ่มได้มีโอกาสร่วมการแข่งขันเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพราะถือว่าเป็นเส้นทางไปสู่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็ทำให้นักกีฬาหลายกลุ่มที่อาจยังไม่ได้ลุ้นเหรียญมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อให้ได้มาสัมผัสประสบการณ์ และเพิ่มเติมทักษะเตรียมพร้อมสู่อนาคตต่อไป
นายวีระศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ นั้น เท่าที่ได้รับทราบมาว่า ทางท่านรองประวิตรไม่ได้เดินทางมายังอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และไม่ได้เดินทางเข้าเยี่ยมทัพนักกีฬาทีมชาติไทยด้วย
