‘ทัพบริดจ์ทีมผสมไทย’ คว้าเงินประวัติศาสตร์ ‘คุณหญิงชดช้อย’ ทำสถิตินักกีฬาไทยอายุเยอะสุดคว้าเหรียญศึก ‘เอเชี่ยนเกมส์’
นักกีฬาบริดจ์ทีมชาติไทย ประเภททีมผสม คว้าเหรียญเงินประวัติศาสตร์ ในการแข่งขันบริดจ์ครั้งแรกในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ครั้งที่ 18 หลังลงแข่งขันรอบชิงชนะเลิศพ่าย ทีมจีน 70.00-122.76 คะแนน ที่จาการ์ตา อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์โปร กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ซึ่งการแข่งขันประเภททีมผสม รอบชิงชนะเลิศ
ทัพบริดจ์ทีมผสมไทยนำโดย คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช นักกีฬาทีมชาติไทยที่อายุมากที่สุดในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ในวัย 74 ปี, ธฤตชลธร ชดช้อย, กนกพร เจนบรรจง, ธีรศักดิ์ จิตต์งามกุศล, สมชัย ใบสมุทร และกฤษดายุทธ์ เปล่งทรัพย์ ลงแข่งขันชี้ชะตากับ ทีมบริดจ์ทีมชาติจีน โดยแข่งขันกันทั้งหมด 3 รอบ
ผลการแข่งขันปรากฏว่า รอบแรกทีมบริดจ์ไทยทำแต้มได้ 6.00 คะแนน ขณะที่ทีมจีนโกยแต้ม 46.67 คะแนน จากนั้นรอบที่สอง ทัพบริดจ์ไทยพยายามระดมสมองเร่งเก็บแต้มเพิ่มเป็น 38.00 คะแนน แต่ทีมจีนก็สามารถทำแต้มเพิ่มเช่นกัน 80.67 คะแนน และรอบสุดท้าย ทีมไทยทำได้ 70.00 คะแนน ส่วนทีมจีนทำได้ 122.67 คะแนน ทำให้ทีมไทยแพ้ไป คว้าเหรียญเงินมาครองได้สำเร็จในการบรรจุชิงชัยกีฬาบริดจ์ในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งแรก
นอกจากนี้ คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช นักกีฬาบริดจ์ ประเภททีมผสม สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกีฬาไทยอายุเยอะที่สุดที่คว้าเหรียญเอเชี่ยนเกมส์ได้ด้วยวัย 74 ปี 1 เดือน 26 วัน ขณะที่นักกีฬาไทยอายุเยอะที่สุดที่คว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ได้คือ “ปู่ตึ๊ก โคราช” มงคล กั้นฝากลาง นักกีฬาบิลเลียด ประเภทชายคู่ ที่จับคู่กับ “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล คว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2002 ด้วยวัยขณะนั้น 72 ปี
คุณหญิงชดช้อย เปิดเผยว่า จริงๆ ไม่ได้คิดว่าตัวเองแก่นะ และก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะอายุเยอะเท่าไรแล้วคว้าเหรียญในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ได้ โดยเรามาแข่งขันหวังแค่ว่าจะพาทีมผ่านเข้าถึงรอบลึกที่สุดที่จะทำได้เราก็รู้สึกพอใจแล้ว แต่ถือว่าเกินเป้าที่ทีมผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ เนื่องจากว่า ตอนที่ไปเล่นในรายการชิงแชมป์เอเชียเมื่อปีก่อนที่ประเทศอินเดีย เราไม่ได้เข้ารอบชิงด้วยซ้ำ เพราะเจอกับทีมแข็ง ซึ่งก็รู้สึกพอใจอย่างมากกับผลงานในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้
“ดิฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองแก่นะ ดิฉันอยู่กับน้องๆ นักกีฬาบริดจ์ไทยชุดนี้มาตลอดหลายสิบปีตั้งแต่หลายๆ คนยังเป็นนักกีฬาเยาวชนอยู่ ซึ่งผลงานครั้งนี้ถือว่าเกินเป้ามากค่ะ จริงๆ แล้วเราไม่ได้คิดว่าเราจะได้เหรียญด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าเราได้ซ้อมกันมาเยอะตลอด ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น เล่นกันได้ดีขึ้น จนประสบความสำเร็จในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้” คุณหญิงชดช้อย กล่าว
คุณหญิงชดช้อยกล่าวในฐานะนายกสมาพันธ์บริดจ์ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกถึงการผลักดันกีฬาบริดจ์ในมหกรรมกีฬาในอนาคตว่า ในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน อีก 4 ปีข้างหน้า คิดว่าคงจะมีบริดจ์ชิงชัยแน่นอน เพราะว่ากีฬาบริดจ์ในจีนมีความแข็งแกร่งมาก จีนมีสโมสรเยอะมาก และมีนักกีฬาอาชีพเยอะมาก ส่วนซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในปีหน้านี้ เราได้คุยกับทางฟิลิปปินส์แล้ว เพื่อพยายามที่จะผลักดันให้มีกีฬาบริดจ์ชิงชัยในซีเกมส์อีกครั้งหนึ่ง
“บริดจ์เป็นกีฬาที่ดิฉันคิดว่า เป็นกีฬาที่ช่วยคนอายุมากได้เยอะมาก เพราะว่าทำให้เราได้ใช้สมองคิด เราต้องมีสมาธิ เราต้องจำไพ่ทุกใบที่ออกไปทุกครั้งว่าหมายความว่าอะไร และเราต้องวิเคราะห์วางแผนตลอดเวลา ซึ่งอยากเชิญชวนให้ผู้สูงอายุหันมาลองเล่นบริดจ์ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เพื่อการแข่งขัน แต่เพื่อการฝึกสมอง และช่วยทำให้มีสังคม มีเพื่อนฝูงเยอะแยะอีกด้วย” คุณหญิงชดช้อยกล่าวทิ้งท้าย
