‘เนวิน’ ออกโรงสับผลงาน ‘ช้างศึก’ ล้มเหลวเอเชี่ยนเกมส์ แฉมีเอเย่นต์ชักใยแข้งติดทีมชาติ!

“บิ๊กเน” นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 ออกโรงวิจารณ์ผลงานล้มเหลวของทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดตกรอบแรกในรอบ 24 ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย

แข้งช้างศึกตั้งเป้าหมายผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศให้ได้เป็นอย่างน้อยเทียบเท่ากับผลงานในเอเชี่ยนเกมส์ เมื่อ 4 ปีก่อนที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ แต่อย่างไรก็ตาม แข้งไทยกลับทำผลงานเก็บได้เพียง 2 แต้ม จากการเสอม กาตาร์ และบังคลาเทศ ก่อนพ่าย อุซเบกิสถาน ตกรอบแรกไปเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี

นายเนวินกล่าว ส่วนตัวเข้าใจความรู้สึกแฟนบอลชาวไทย ทั้งที่เสียใจ ผิดหวัง อับอาย และเกือบจะหมดหวังกับฟุตบอลทีมชาติไทย ในสายตาตนมองว่าฟุตบอลมันจะประสบความสำเร็จได้จะต้องอยู่กับปัจจุบัน ทุกทีมในโลกเวลาที่พิจารณาผู้เล่น ไม่ว่าสโมสรหรือทีมชาติ เขาจะดูประสิทธิภาพในปัจจุบัน ไม่ใช่ดูอดีตว่าใครเคยติดทีมชาติมาแล้ว ซึ่งปัญหาของทีมชาติในปัจจุบันคือ คนที่มีอำนาจเลือกตัวทีมชาติ แต่สิ่งที่เห็นความผิดพลาดในทีมชาติแทบจะทุกรุ่นก็คือการเรียกตัวที่ไม่ใช่ปัจจุบัน

“เรายอมรับความจริงว่าฟุตบอลอาชีพในปัจจุบันพัฒนาขึ้นมาก โดยเฉพาะสถานการณ์ในตอนนี้ที่ตกชั้น 5 ทีม เพราะฉะนั้นผู้เล่นที่โค้ชหรือเจ้าของทีมเลือกลงสนามจะต้องเป็นผู้เล่นที่ท็อปฟอร์มมากที่สุด บางคนไม่ค่อยได้ลงเล่น หรือลงเล่นแค่ 5-10 นาทีแต่กลับถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย นี่เป็นทีมชาติที่แปลกที่สุดโลกที่มีการเรียกตัวผู้เล่นมาติดทีมชาติแบบนี้ และมันจะไม่มีวันที่จะประสบความสำเร็จ”

Advertisement

นายเนวินกล่าวอีกว่า หวังในอนาคตที่เราจะไปเล่นเอเชี่ยนคัพ หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ หวังว่าผู้ที่มีอำนาจในการเลือกตัวจะเลือกตัวผู้เล่นในปัจจุบันการตกรอบเอเชี่ยนเกมส์ ทุกคนเสียใจและอับอายกันหมด ขอพูดตรงๆ ว่า จะไปโทษเด็กไม่ได้ ต้องโทษผู้ใหญ่ เพราะเด็กไม่มีสิทธิ์แต่งตั้งตัวเองเป็นผู้เล่นทีมชาติ

“พอเรียกเด็กไปแล้ว พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์กำหนดแท็คติกหรือการฝึกซ้อม ก็ผู้ใหญ่อีกนั่นแหละ การเลือกตัวจริง ตัวสำรอง รวมไปถึงการแก้เกม การเปลี่ยนตัว ก็เป็นผู้ใหญ่อีกนั่นแหละเป็นคนกำหนด เพราะฉะนั้นผมอยากจะบอกแฟนบอลชาวไทยว่าเราอย่าไปโทษเด็ก”

“ผมในฐานะที่ทำทีมฟุตบอลมา 9 ปี และผมคิดว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด น่าจะเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทย แต่ผมไม่เคยคิดว่าจะใช้วิธีการแบบนี้ในการจัดการทีมในเอเชียนเกมส์ มันจะเป็นวิถีทางของมืออาชีพในการจัดการ ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ผู้เล่นบางคนเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมในหัวตารางในไทยลีก ต้องไปนั่งเป็นตัวสำรองของผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกัน ที่อยู่ในโซนตกชั้น ไม่มีทีมไหนในโลกนี้ที่จะทำฟุตบอลอาชีพด้วยวิธีการแบบนั้น แบบนี้อย่าโทษเด็ก ต้องโทษที่ผู้ใหญ่ ซึ่งหากปล่อยไว้แบบนี้่ต่อไป ศรัทธาแฟนบอลก็จะหายไปความน่าอับอายก็จะกลับที่ประเทศไทย”

“ส่วนเรื่องความประพฤติของนักกีฬาก็โทษใครไม่ได้หรอก ก็ต้องเป็นผู้ใหญ่อีก คุณเลือกตัวผู้เล่นคุณต้องคุมได้ เพราะหากคุณเลือกแล้วคุณคุมไม่ได้คุณจะเลือกทำไม ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ สมาคมฟุตบอลจะต้องหาวิธีตัดระบบเส้นสายในการเรียกตัว ตัดระบบผลประโยชน์กับการเรียกตัว เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการเรียกตัวผู้เล่นไปติดทีมชาติ มันทำให้ราคาค่าตัวมันเปลี่ยนแปลงไป”

“ผมไม่รู้ว่าบรรดาโค้ชในทีมชาติอยู่กับเอเย่นต์ไหนบ้าง มีเอเย่นต์กันหรือไม่ เพราะถ้าหากโค้ชมีเอเย่นต์และเอเย่นต์ก็มีนักฟุตบอล มันจะเกิดอะไรขึ้นกับการเรียกตัวนักฟุตบอลติดทีมชาติ อันนี้เป็นเรื่องที่สมาคมต้องหาวิธีป้องกันและจัดการ ขนาดโค้ชหรือเจ้าของสโมสรที่อยู่กับนักเตะทุกวัน เขายังไม่ส่งลงเล่น แต่โค้ชทีมชาติไปเรียกนักเตะมาเล่นได้อย่างไร”

“สำหรับผมแล้ว ไม่สงสัยก็ต้องสงสัย และผิดพลาดขึ้นมาแล้ว สำหรับผม สมควรโดนด่า”

“อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เรายังมีโอกาสเป็นแชมป์ ซูซูกิ คัพ ได้ แค่เพียงพิจารณาผู้เล่นทีมชาติไทยจากปัจจุบัน จากผู้เล่นที่เป็นตัวจริงในปัจจุบัน มันจะไม่มีปัญหาเรื่องความฟิต คุณสามารถกำหนดแท็กติกได้ แต่อย่าเรียกผู้เล่นที่ไม่ได้ลงสนามมาติดทีมชาติไทย” บิ๊กเนกล่าวปิดท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image