หลังจากที่ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประกาศเลือกสนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ใช้ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เข้าชิงเป็นปีที่สองติดต่อกัน พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี วันที่ 20 ตุลาคม แต่สถิติที่ผ่านมาแข้งบีจี เอฟซี ไม่เคยบุกมาเก็บชัยชนะที่สนามแห่งนี้ได้เลย นับตั้งแต่ที่สโมสรเพื่อนตำรวจ ใช้เป็นสนามเหย้า จนเปลี่ยนมาเป็น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในฤดูกาลล่าสุด
“โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด กุนซือทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วไม่เชื่อในเรื่องสถิตินี้ แต่ก็ไม่ได้ประมาทอะไร เพียงแต่ในการลงเล่นที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ครั้งนี้ เราไม่ได้เจอกับ ทรู แบงค็อก แต่เราจะเจอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งในเกมเกมไทยลีก ฤดูกาล 2018 นี้ก็ยังไม่มีใครเอาชนะกันได้เลย (เลกแรก เสมอ 1-1 ที่สิงห์ สเตเดียม, เลกสอง เสมอ 0-0 ที่ลีโอ สเตเดี้ยม)
“ฉะนั้นจะเป็นเรื่องที่ดี ที่เราจะได้แก้มือหนที่ 3 ของปีนี้ อีกอย่างเราต้องการคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะคุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรต้องการที่จะตอบแทนแฟนบอลในแต่ละซีซั่น อยากจะมีถ้วยให้กองเชียร์ได้ชื่นชม นี่จะเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เรากระหายในโทรฟี่นี้ โดยไม่สนว่าอาถรรพ์ของสนามดังกล่าวเป็นเช่นไร” โค้ชจุ่น กล่าว
โค้ชจุ่นกล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ที่ บางกอกกล๊าส มี 38 คะแนนในไทยลีก 2018 แต่เชื่อมั่นว่า ในอีก 4 เกมสุดท้าย ถ้าเราได้อีก 6 แต้ม ทุกอย่างน่าจะจบสิ้นที่เราจะรอดตกชั้นโดยเฉพาะอีก 2 เกมถัดไป ที่จะเจอกับ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทัรล เอฟซี และสุพรรณบุรี เอฟซี ถ้าชนะได้หมด พร้อมเก็บอีก 6 แต้ม ทุกอย่างก็น่าจะจบ อย่างไรก็ตาม จะเต็มที่ในทุกเกมที่เหลือแน่นอน เพราะเรามองไปที่การจบเลขตัวเดียว ด้วยการแซงหน้าขึ้นไปจบที่เลขตัวเดียวของของตารางคะแนนไทยลีกในฤดูกาลนี้ด้วยซ้ำ
ส่วนกรณีที่สัญญาของโค้ชจุ่นกำลังจะหมดกับทีมบีจีหลังจบฤดูกาลนี้ โค้ชจุ่น กล่าวว่า ตัวเองทำตามคำสั่งของผู้บริหาร ซึ่งถ้าหากให้คุมทีมต่อในฤดูกาลหน้าก็พร้อมจะทำหน้าที่ แต่หากให้ออกก็คงต้องออก
