นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมาร่วมศึกษาแนวทางการจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา รวมถึงเข้าเยี่ยมชมการแข่งขันทัพนักกีฬาไทย และพบ เลอันโดร ลาร์โรซ่า ประธานกรรมการบริหาร คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ครั้งที่ 3 ของกรุงบัวโนสไอเรส
นอกจากนี้ นายวีระศักดิ์ ยังได้เข้าพบคุยกับ โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ด้วยนั้น เพื่อพูดคุยหารือเก็บรวบรวมข้อมูลถึงแนวทางในการที่ประเทศไทยจะยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ในปี 2026 หรือในอีก 8 ปีข้างหน้าด้วยนั้น
นายวีระศักดิ์ เปิดเผยว่า ในการพูดคุยกับ เลอันโดร ลาร์โรซ่า ประธานกรรมการบริหาร คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ครั้งที่ 3 ของกรุงบัวโนสไอเรส หลักๆ เป็นการมาศึกษาดูวิธีการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งบัวโนสไอเรสเกมส์ ถือเป็นต้นแบบที่ดีในการจัดการแข่งขันในงบประมาณที่จำกัด
“เนื่องจากอาร์เจนตินาเขาเองมีสภาพเศรษฐกิจไม่ดี เพิ่งจะผ่านวิกฤตมาได้ ซึ่งวิธีคิดของเขาหลายอย่างน่าทึ่ง ทำให้ชุดความรู้เดิมในการจัดการแข่งขันหายไป เขาสร้างคณะกรรมการจัดการแข่งขันฝ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นการสร้างจาก 15 คนค่อยๆ เพิ่มขึ้นในเวลา 5 ปี กระทั่งครบทุกฝ่าย 1,500 คน เขาสร้างให้ประชาชนในเมืองได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ” นายวีระศักดิ์กล่าว
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเราจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน สิ่งแรกที่คิดคือเราต้องมีงบประมาณมหาศาล แต่บัวโนสไอเรส มีวิธีการที่ดี และประหยัด โดยจะเห็นว่าหลายสนามเป็นการใช้สิ่งปลูกสร้างที่เป็นแบบชั่วคราว เขามาร่วมกับสิ่งที่มีอยู่เดิม ซึ่งใช้งบประมานน้อยกว่าที่จะไปสร้างสนามขึ้นใหม่ เพราะเขาเชื่อว่างบประมาณในการดูแลรักษานั้นมากกว่า โดยรวมแล้วบัวโนสไอเรสใช้งบกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6,540 ล้านบาท) ในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้
“อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นแนวคิดที่ดี คือการนำกีฬามาหามวลชน แทนการนำมวลชนไปหากีฬา เช่นครั้งนี้ นำการแข่งขันเรือพายมาแข่งใจกลางเมือง ซึ่งมีประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาได้เห็น ได้ชมแน่นๆ 4,000-5,000 คน แทนที่จะไปจัดในสนามมาตรฐานสูง ซึ่งคนต้องตามไปดูก็น่าจะมีประมาณไม่เกิน 2000 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตามการทำรูปแบบนี้อาจจะไม่ได้สนามที่มีมาตรฐานสูงนัก” รมว.วีระศักดิ์กล่าว
นายวีระศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ย้อนกลับมาที่ไทย ซึ่งก่อนหน้าที่คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลับไปศึกษาแนวทางการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2026 ซึ่งอาร์เจนติน่าถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดการแข่งขันที่ใช้งบน้อย แต่เชื่อว่า ในครั้งต่อไป ที่ประเทศเซเนกัล ยังสามารถใช้เงินได้น้อยลงอีก ซึ่งเราก็จะเอามาประยุกต์ใช้กับประเทศไทยต่อไปอย่างเหมาะสม
