ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ครั้งที่ 3 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โดย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมาร่วมศึกษาแนวทางการจัดการแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ซึ่งก่อนหน้าหน้า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลับไปศึกษาแนวทางการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2026
นายวีระศักดิ์ เปิดเผยว่า บัวโนสไอเรสเกมส์ 2018 ใช้วิธีการกระจายสนามแข่งขันออกไปตามสนามต่างๆ 5-6 สนาม แทนที่จะกระจุกอยู่ที่เดียว ซึ่งในยูธโอลิมปิกประเด็นใหญ่ไม่ใช่เรื่องของการแข่งขัน แต่เป็นเรื่องของการร่วมกันทำกิจกรรม ใครชนะใครแพ้คงไม่ใช่ประเด็นใหญ่ของฝ่ายจัดการแข่งขัน ยูธโอลิมปิกถูกทำให้หลักการเปลี่ยนไป คือมีความยืดหยุ่น และหันมาให้ความสำคัญกับประชาชนได้มีส่วนร่วมกับการจัดการแข่งขัน จึงไม่จำเป็นต้องใช้สนามที่ใหญ่โต แต่เป็นการใช้สิ่งที่มีอยู่แล้ว เอามาปรับปรุงใหม่ก็สามารถใช้ในการจัดการแข่งขันได้
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอีกว่า การมาครั้งนี้ แค่มาฟังแค่นี้ก็คุ้มแล้ว ไม่เช่นนั้นเราจะจมอยู่กับความคิดเดิมๆ ว่าถ้าเราอยากจะเป็นเจ้าภาพยูธโอลิมปิก เราต้องใช้งบประมาณมหาศาล จังหวัดต่างๆ ที่อยากจะมีส่วนร่วมก็ไม่ต้องกังกลว่าจะต้องเตรียมของบประมาณมากมายเพื่อไปสร้างสนามใหม่ เพราะหลายอย่างเขาสร้างด้วยสิ่งปลูกสร้างชั่วคราว มากกว่าไปสร้างใหม่ เพราะสิ่งที่ยากกว่าสร้างใหม่คือการดูแลรักษา ซึ่งต้องใช้งบประมาณมากกว่า
“อย่างไรก็ตาม 8 ปีข้างหน้า รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ น่าจะเสร็จ และเปิดใช้งาน เราอาจจะใช้ประโยชน์จากของที่เรามีอยู่ให้คุ่มค่าที่สุด เช่น อาจเลือกใช้สนามที่อยู่ใกล้ทางรถไฟฟ้าเหล่านั้น และแน่นอนว่าจะเป็นโอกาสที่จะได้ปรับปรุงสนามที่เรามีอยู่ไม่ว่าจะเป็นสนามเอกชน สนามราชการ รวมถึงสนามมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็สามารถดึงมาใช้งานได้” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าว
นายวีระศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้ปิดกั้นการสร้างสนามแห่งใหม่ขึ้น เนื่องจากสนามที่เรามีอยู่เป็นสนามเก่าที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้ทั้งสิ้น และถ้าเราไม่สร้างไว้ให้คนรุ่นหลังก็จะไม่มีสนามกีฬาไว้ใช้งาน คิดว่าควรจะต้องสร้างเช่นกัน และยิ่งเราจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลกก็ยิ่งสมเหตุสมผลที่เราจะสร้างไว้บ้าง
