‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ตั้งโต๊ะแถลงโดนเด้งเลขาลูกหนังไทย เตรียมแจงปัญหาภายใน 3 ปีให้สังคมตัดสินผิด-ถูก

หลังจากที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ทำการปลด “บิ๊กเจี๊๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสมาคมฯ หลังจากร่วมงานกันมาเกือบ 3 ปี และเป็นผู้ชักนำ พล.ต.อ.ดร.สมยศ เข้ามาลงเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

โดยสาเหตุหลักๆ มาจากสภากรรมการ และสโมสรสมาชิก ต้องการให้เปลี่ยนเลขาธิการ มีการเข้าชื่อกันมามากมาย และในการโหวตจากสภากรรมการก็มีคะแนนเสียงเอกฉันท์ว่า ให้เปลี่ยนเลขาธิการ เพราะไม่พอใจการดำเนินงานต่างๆ ของ พล.ต.ท.พิสัณห์ รวมถึงเรื่องการให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี มีการใช้สารเสพติด จนเกิดความไม่พอใจแก่สมาชิกและผู้ปกครองนั้น

“บิ๊กเจี๊๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ยอมรับว่าเรื่องการโดนปลดเป็นเรื่องจริง โดยเหตุผลหลักๆ คือมีปัญหากันมาอย่างยาวนาน ซึ่งยังไม่อยากขอลงรายละเอียดอะไรมากในตอนนี้ แต่จะขอแถลงข่าวให้ทราบที่ห้องประชุมชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก ในวันที่ 24 ตุลาคม เวลา 11.00 น.

“ประเด็นหลักๆ ที่ผมจะแถลงก็คือปัญหา และสิ่งที่เกิดขึ้นภายในสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ตลอดช่วงเวลา 3 ปีกว่าที่ทำงานกันมาที่อยากจะให้ประชาชน คนวงการฟุตบอลได้รับทราบและได้ตัดสินว่าใครถูกใครผิดกันแน่ รวมถึงประเด็นที่ว่าผมจะลงสมัครเป็นผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนต่อไป รวมทั้งเรื่องการเงินที่เป็นปัญหาอยู่ด้วยจะแถลงให้ทราบในวันนั้นเลย” พล.ต.ท.พิสัณห์

Advertisement

ขณะที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า ยอมรับว่าได้มีการบอกด้วยวาจาให้ พล.ต.ท.พิสัณห์ ทราบแล้วว่าต้องพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ โดยสาเหตุหลักๆ นั้นมาจากสภากรรมการ และสโมสรสมาชิก ต้องการให้เปลี่ยนเลขาธิการ มีการเข้าชื่อกันมามากมาย และในการโหวตจากสภากรรมการก็มีคะแนนเสียงเอกฉันท์ว่า ให้เปลี่ยนเลขาธิการ เพราะไม่พอใจการดำเนินงานต่างๆ ของ พล.ต.ท.พิสัณห์

บิ๊กอ๊อดเล่าย้อนไปว่า เมื่อตอนเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ที่จะให้ พล.ต.ท.พิสัณห์ เป็นเลขาฯ ก็มีเสียงคัดค้านจากสโมสรสมาชิก แต่ตัวเองดันทุรัง เพราะคิดว่าจากประสบการณ์การทำงานของ พล.ต.ท.พิสัณห์ จะสามารถช่วยเหลือได้ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนกันมา จึงขอร้องสมาชิกให้เห็นแก่ตน หากไม่ดีก็ค่อยว่ากัน แต่หลังจากนั้นมีเรื่องของสภากรรมการ สโมสรสมาชิก ไม่พอใจมาโดยตลอด ทั้งการนำเรื่องภายในไปให้บุคคลภายนอก โดยเฉพาะตอนให้สัมภาษณ์ว่าแคมป์ทีมฟุตบอลชาติไทย ชุด 16 ปี มีการใช้สารเสพติด

“เรื่องนี้สมาชิก และผู้ปกครองไม่พอใจมาก ตำหนิอย่างหนัก ในแคมป์มีราว 30 คน แล้วใครเป็นคนเสพ พล.ต.ท.พิสัณห์ก็บอกผมว่าจะรับผิดชอบด้วยลาออก แต่ผมก็ถูลู่ถูกังมา จนเรื่องเงียบ ทว่าภายในก็ยังมีการกดดันเรื่อยๆ กระทั่ง 2 เดือนก่อนหน้า เข้าชื่อกันมา ผมก็ต่อรองว่า ไว้หลัง ซูซูกิคัพ หรือเอเชี่ยนคัพ แต่ทานไม่ไหว ผมก็จนแต้ม เพราะการที่ผมนั่งนายกสมาคมฯ เพราะแรงสนับสนุนจากสมาชิก” บิ๊กอ๊อดกล่าว

Advertisement

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีข่าวว่า พล.ต.ท.พิสัณห์ จะแถลงข่าว รู้ว่าจะแถลงเรื่องที่ตนควบตำแหน่งนายกสมาคมฯ กับ ประธานบริษัทไทยลีก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ พล.ต.ท.พิสัณห์ เคยบอกว่าอยากนั่งตำแหน่งนี้ แต่เคยสอบถามสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) แล้วว่าตนสามารถนั่งควบ 2 ตำแหน่งได้ แค่อาจจะไม่สง่านัก และที่ทำเพื่อโอนหุ้น 99.98 เปอร์เซ็นต์ มาเป็นของสมาคมฯ รวมทั้งเรื่องค่าตอบแทนให้พนักงานใน บจก.ไทยลีก มันก็ทำได้ เพราะนี่ไม่ใช่ส่วนแบ่งผลกำไร ส่วนโบนัสเป็นเรื่องของการจ่ายให้ หลังปิดงบดุลประจำปี ที่มีผลกำไร

“เรื่องนี้มันเหมือนไฟสุมขอน ผมพยายามแบกมาตลอด อันเนื่องมาจากการบริหารงาน ที่ทำให้เกิดความแตกแยกในองค์กร จนต้องดำเนินการ ผมนั่งทานข้าวกัน แล้วก็เสนอว่า ลาออกไหม หรือจะเป็นประธานที่ปรึกษา จะได้สง่างาม แต่เขาไม่เอา บอกว่าสมัยหน้าจะลงชิงนายกเอง ก็เลยต้องแยกทาง ตอนนี้ยังไม่มีหนังสือเป็นทางการ แต่อีกไม่นานก็จะมี”

ส่วนผู้ที่จะมาทำหน้าที่ เลขาคนใหม่ ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็น พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ หรือ “บิ๊กกร๊อง” วิรัช ชาญพานิช หรือไม่ บิ๊กอ๊อด กล่าวปิดท้ายว่า มีความเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ต้องแล้วแต่สภากรรมการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image