‘ฐิติพันธ์’ กระหายช่วยทัพ ‘ช้างศึก’ บู๊ซูซูกิคัพ หลังอกหัก2รอบใน4ปี ยันไม่ประมาททุกทีม เป้าหมายสถานเดียวต้องแชมป์!

ความเคลื่อนไหวทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดเตรียมทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนรายการ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” ช่วงระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน-15 ธันวาคม โดยทีมชาติไทยในฐานะแชมป์เก่าอยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และติมอร์ เลสเต โดยโปรแกรมรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทยจะประเดิมสนามพบกับ ติมอร์ เลสเต ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 เวลา 19.00 น.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม “โค้ชมิโล่” มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยชาวเซอร์เบีย ยังคงนำลูกทีมปักหลักฝึกซ้อมต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ที่สนามฟุตบอลภายในโรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมความพร้อม โดย มิโลวาน ราเยวัช ได้เรียกนักเตะเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมทั้งหมด 27 คน ก่อนที่จะตัดตัวผู้เล่นให้เหลือ 23 คนสุดท้าย ก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018”

“นิว” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางทีมชาติไทยจากสโมสร “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี เปิดเผยว่า ในการฝึกซ้อมตอนนี้ผู้เล่นทั้งหมดยังมาไม่ครบ ทำให้โค้ชยังลงรายละเอียดเรื่องแท็คติคมากไม่ได้ แต่สิ่งที่โค้ชเน้นแทนคือ เรื่องรักษาสภาพร่างกาย และความฟิต อาจมีบ้างที่เน้นเรื่องแท็คติคเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามา ส่วนตัวเองนั้นมีความกระหายที่จะลงเล่นในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 เป็นอย่างมาก หลังเคยอกหักจาก 2 ครั้งหลังสุด เพราะอาการบาดเจ็บ และฟอร์มการเล่นส่วนตัว

“ผมรอรายการนี้มา 4 ปีแล้ว อย่าง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2014 ผมมีโอกาสติดทีม แต่ก็เจ็บไป พอมาครั้งที่ 2 ปี 2016 ด้วยฟอร์มที่ตกลงก็ทำให้ผมไม่มีชื่อ จึงถือว่าเป็นรายการที่ผมอยากสัมผัสมากๆ และคิดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นปีที่ผมพร้อมที่สุด ทั้งสภาพร่างกายและฟอร์มการเล่น โดยก็หวังว่า เราจะประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์มาครองให้ได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราจะโฟกัสไปทีละแมตซ์ และในเวลานี้เราจะพยายามทำงานให้หนักมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” ฐิติพันธ์กล่าว

Advertisement

ฐิติพันธ์ กล่าวอีกว่า จริงอยู่ที่ผู้เล่นทีมไทยชุดนี้ แทบไม่เคยเล่นรายการนี้เลย แต่ว่าในแง่ประสบการณ์ หลายคนก็เคยเล่นทีมชาติมาแล้ว ดังนั้นก็น่าจะคุ้นเคยกับทีมในอาเซียนดีอยู่แล้ว อีกอย่างก็น่าจะรู้ว่าความยากง่ายในการเล่นเหย้าและเยือนว่าเป็นยังไง คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในเรื่องประสบการณ์ ที่สำคัญเรามีระยะเวลาเตรียมทีมพอสมควรด้วย โดยแมตช์ก่อนหน้านี้ เราเจอแต่ทีมในระดับสูงกว่า ทำให้เป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องเน้นรับไว้ก่อน แต่มาครั้งนี้ เราจะได้เล่นเกมรุกมากขึ้น

“ผมมองว่าไม่ใช่เรื่องท้าทายของโค้ชอย่างเดียว แต่รวมถึงนักฟุตบอลทุกคนด้วยที่จะได้แสดงศักยภาพออกมาเต็มที่ และพิสูจน์ให้เห็นว่า เราทำได้ดีแค่ไหน แน่นอนว่าในอาเซียน ทุกคนมองว่า เราเป็นต่อทุกทีม แต่ผมไม่คิดแบบนั้น เราอาจเป็นต่อก่อนเกมก็จริง แต่ถ้าลงไปแล้ว เราเล่นเหยาะแหยะ หรือไม่รัดกุม เราก็มีสิทธิโดนโค่นเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ เราห้ามประมาท ต้องเล่นตามแท็คติคของโค้ช และเล่นให้ดุดันที่สุด” ฐิติพันธ์กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทยทั้งหมดในรอบแบ่งกลุ่ม ประกอบด้วย
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2561เวลา 19.00 น. พบ ติมอร์ เลสเต ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561เวลา 18.30 น. พบ อินโดนีเซีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 เวลา 18.30 น. พบ ฟิลิปปินส์ ที่ปานาอัด สเตเดียม
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 เวลา 19.00 น. พบ สิงคโปร์ ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image