ความเคลื่อนไหวทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์เก่า 5 สมัย ซึ่งมีโปรแกรมป้องกันแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รายการ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” โดยทีมชาติไทยลงเตะรอบแรกคว้าชัยรวด 2 นัด นัดแรกเปิดบ้านถล่มชนะ ติมอร์ เลสเต 7-0 และนัดสอง ชนะ อินโดนีเซีย 4-2 เก็บ 6 แต้มเต็ม ซึ่งโปรแกรมนัดต่อไปจะต้องบุกเยือน ฟิลิปินส์ ที่ปานัด สเตเดียม เมืองบาโคลอด ประเทศฟิลิปินส์ วันที่ 21 พฤศจิกายน ตามเวลาไทย 18.30 น. ช่อง 7 เอชดีถ่ายทอดสด
“ปก” ปกเกล้า อนันต์ กองกลางทีมชาติไทย วัย 27 ปี ยืนยันพร้อมลงสนามช่วยทีมทุกเมื่อ ถ้า มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนให้โอกาส หลังล่าสุดลงมาเป็นสำรอง พร้อมทำ 1 ประตูพา ช้างศึก เปิดบ้านชนะ อินโดนีเซีย 4-2 ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 นัดที่ 2 ของกลุ่มบี ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ดาวเตะวัย 27 ปี ถูกเปลี่ยนลงสนามช่วงครึ่งหลัง แทนที่ มงคล ทศไกร ซึ่งนอกจากจะทำให้เกมในแดนกลางของทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ปกเกล้า ยังวิ่งสอดขึ้นมารับบอลจาก สรรวัชญ์ เดชมิตร ในนาทีที่ 75 ก่อนชิพข้ามหัวผู้รักษาประตูทีมเยือนเข้าไป อย่างสวยงาม
ปกเกล้ากล่าวว่า เกม ครึ่งแรกเป็นเกมที่อึดอัดพอสมควร เพราะโดยรวมอินโดนีเซียทำได้ดีกว่า ยิ่งได้ประตูขึ้นนำไปก่อนด้วย ก็ทำให้เรายิ่งกดดัน และต้องเปิดเกมรุก ซึ่งเสี่ยงถูกโต้กลับ แต่พอเราได้ประตูตีเสมอเร็ว รวมถึงได้ประตูแซงขึ้นนำในช่วงเวลาสำคัญ ก็ทำให้ครึ่งหลัง เราเล่นในแนวทางของเราได้
“ครึ่งหลังที่ถูกเปลี่ยนลงไป โค้ช (มิโลวาน ราเยวัช) ก็พยายามบอกว่า ให้เล่นตามแท็คติค เหมือนที่ซ้อมกันมา และพยายามเพิ่มความสมดุลในแดนกลางของทีมให้ได้ เพราะอย่างที่บอก ครึ่งแรกเราดูเป็นรอง ก็ดีใจครับ ที่มีโอาสลงสนามนัดแรก และมีส่วนช่วยทีมได้ แต่ก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องปรับครับ ทั้งจังหวะการเล่น ที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ และในเรื่องของระบบหายใจด้วย” ปกเกล้ากล่าว
กองกลางจากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังกล่าวต่อว่า ขณะที่จังหวะที่ยิงเข้า ก็ต้องบอกว่ารู้ใจกับ “แคมป์” สรรวัชญ์ เดชมิตร อยู่แล้วครับ เพราะหลายๆ ครั้ง เวลาลงเล่นให้สโมสรก็มักทำแบบนี้ให้เห็น จริงๆ มันเป็นจังหวะของฟุตบอลด้วยครับ ส่วนตัวเวลาเห็นเพื่อนได้บอลก็มักจะวิ่งสอดขึ้นหน้าอยู่แล้ว ไม่รู้หรอกว่า ในเมื่อจ่ายมาแล้ว จะมาถึงเรามั้ย แต่ก็คิดเสียว่า วิ่งเปิดพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีม อย่างน้อยๆ ให้คนที่ได้บอล มีตัวเลือกที่จะจ่ายได้
“สาเหตุที่เลือกยิงทันที ก็เพราะว่า ผมเห็นผู้รักษาประตูออกมาค่อนข้างไกล และระหว่างนั้นก็มีผู้เล่น อินโดนีเซีย 2 คน พยายามวิ่งเข้ามาบีบ ดังนั้น ผมจึงคิดว่า ต้องตัดสินใจยิงเลย เพราะถ้าแตะขึ้นไปอีก ก็อาจเสียบอล หรือไม่ก็ถูกตัดฟาวล์ ก็ดีใจครับ ที่ยิงประตูแรกได้ มันทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น และต้องชม พี่แคมป์ ด้วยครับ ที่จ่ายบอลมาได้ดีมากๆ” เจ้าปกกล่าว
ปกเกล้ากล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้รับโอกาสลงสนามอีกหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละเกม แต่แน่นอนว่า ถ้าได้รับโอกาส ก็พร้อมลงสนามช่วยทีมทุกเมื่อครับ ที่สำคัญยินดีที่จะสนับสนุนทีมในทุกๆ ทางอยู่แล้ว
สำหรับโปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย จะบุกไปเยือน ทีมชาติฟิลิปปินส์ ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018 นัดที่ 3 ของกลุ่มบี วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ที่สนามปานาอัด สเตเดียม เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เอชดี
