เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมบางกอกพาเลส ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา เป็นประธานพิธีเปิดการอบรม “การพัฒนาศักยภาพผู้นำการออกกำลังกายผู้สูงอายุ” โครงการส่งเสริมวิถีชีวิตตามแนวคิดวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อการพัฒนาสุขภาวะที่ยั่งยืน โดยมี ดร.ประพัน ไพรอังกูร รองอธิบดีกรมพลศึกษา พร้อมผู้บริหารกรมพลศึกษา ร่วมด้วย
สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา การอบรม “การพัฒนาศักยภาพผู้นำการออกกำลังกายผู้สูงอายุ” โครงการส่งเสริมวิถีชีวิตตามแนวคิดวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อการพัฒนาสุขภาวะที่ยั่งยืน เพื่อพัฒนาเครือข่ายชมรมออกกำลังกายผู้สูงอายุ ให้มีความรู้ ทักษะของผู้นำการออกกำลังกายผู้สูงอายุและส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างทั่วถึง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมบางกอกพาเลส มีผู้เข้าร่วมการอบรมจำนวน 105 คน
สำหรับการพัฒนาเครือข่ายชมรมผู้สูงอายุครั้งนี้ จัดให้มีการบรรยายภาคทฤษฏี และการฝึกปฏิบัติจริงในการออกกำลังกาย ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.สันทนี เครือขอน อาจารย์ประจำคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อ.นภสร นีละไพจิตร อาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ว่าที่ร้อยตรีสุเมธ สุจริยวงศ์ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนงามมานะ (แผนทับอุทิศ) และวิทยากรจากสำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา ในการให้ความรู้ โดยหลักสูตรของการอบรมครั้งนี้ ประกอบด้วย การออกกำลังกายแบบองค์รวมสำหรับผู้สูงอายุ การเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การเสริมสร้างความยืดหยุ่นและการทรงตัว การสร้างแรงจูงใจและสมาธิ และการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายกายของผู้สูงอายุ ซึ่งหลักสูตรในการฝึกอบรมทุกๆหัวข้อ จะเน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถเป็นวิทยากรที่สามารถถ่ายทอดความรู้ในการออกกำลังกายของผู้สูงอายุได้
ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจส่วนหนึ่งของกรมพลศึกษา ที่จะเน้นการพัฒนาผู้สูงอายุและผู้นำการออกกำลังกายให้เป็นบุคคลที่มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงได้มีการพัฒนาของผู้นำการออกกำลังกายให้มีความรู้และทักษะในการออกกำลังกายให้กับสมาชิกผู้สูงอายุในชมรมและประชาชนในชุมชนได้ออกกำลังกายอย่างถูกต้อง โดยการที่ใช้การออกกำลังกายมาเป็นสื่อ หรือเครื่องมือในการส่งเสริมสุขภาพ และสมรรถภาพนั้นจะทำให้ผู้สูงอายุ เกิดความสนใจที่จะดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง และยังเป็นการสร้างเครือข่ายการออกกำลังกายไปสู่ชุมชนอย่างทั่วถึงอีกด้วย”
