ถกสมาชิกบูมกีฬาม.อาเซียนให้เจ๋งขึ้นเหตุนักกีฬาซุป’ตาร์น้อย-คนไม่ค่อยดู

การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 19 ปิดฉากลงแล้วด้วยการที่ทัพนักกีฬาปัญญาชนไทยคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ด้วยผลงาน 62 เหรียญทอง 52 เหรียญเงิน 38 เหรียญทองแดง คว้าเจ้าเหรียญทองสมัยที่ 7 และเป็นแชมป์นอกประเทศ 2 สมัยติด ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 51 เหรียญทอง ส่วนอันดับ 2 อินโดนีเซีย 44 ทอง อันดับ 3 มาเลเซีย 37 ทอง อันดับ 4 พม่า 24 ทอง อันดับ 5 เวียดนาม 16 ทอง อันดับ 6 ลาว 7 ทอง อันดับ 7 สิงคโปร์ 5 ทอง อันดับ 8 กัมพูชา 5 ทอง(ได้เหรียญเงินน้อยกว่าสิงคโปร์) อันดับ 9 ติมอร์ เลสเต 2 ทอง อันดับ 10 ฟิลิปปินส์ 1 ทอง ส่วนบรูไนไม่ได้เหรียญรางวัล

รศ.วิชิต คนึงสุขเกษม หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย กล่าวว่า ครั้งนี้ถือว่าทุกชนิดกีฬาทำได้ดี ผลงานออกมาน่าพอใจทั้งหมด โดยเฉพาะเทเบิลเทนนิส, เทนนิส ที่เหมาเหรียญทองในทุกอีเวนต์ เรือพายได้ 10 เหรียญทอง จากที่วางเป้าไว้แค่ 5 เหรียญทอง มีอีกหลายกีฬาที่ผลงานทะลุเป้า เช่น คาราเต้-โด, วูซู, แบดมินตัน เป็นต้น นอกจากนั้นก็เป็นไปตามมาตรฐานที่ดีจนทำให้ไทยประสบความสำเร็จป้องกันแชมป์เอาไว้ได้อีกสมัย นอกจากนั้นชาติคู่แข่งอย่างฟิลิปปินส์, เวียดนาม ก็มีปัญหาการเงินและปัญหาภายใน ทำให้ไม่สามารถส่งแข่งได้อย่างเต็มที่ ต้องขอบคุณนักกีฬาและโค้ช รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อความสำเร็จในครั้งนี้

หัวหน้านักกีฬาไทยกล่าวอีกว่า กีฬา ม.อาเซียนยังคงเป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจไม่มากนัก ไม่ว่าจะจัดที่ไหนก็ตาม เพราะตัวนักกีฬายังไม่มีใช่ระดับซุปเปอร์สตาร์ และมาตรฐานอาจจะน้อยกว่าซีเกมส์ บางประเทศก็ส่งแข่งขันน้อย อย่างบรูไนและสิงคโปร์ก็ลดจำนวนนักกีฬาลง จึงต้องมีการหารือกันภายในคณะกรรมการบริหาร สหพนัธ์กีฬามหาวิทยาลัยอาเซียนว่าจะทำอย่างไรให้มหกรรมนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยจะมีการประชุมสหพันธ์กันในเร็วๆ นี้ ก็จะหยิบยกประเด็นนี้ไปหารือกันอย่างจริงจัง

ขณะที่การต่อยอดความสำเร็จไปถึงกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 30 ที่เมืองเนเปิ้ลส์ ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 3-14 กรกฎาคม ปีหน้า รศ.วิชิตกล่าวว่า การไปแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกก็คงต้องใช้นักกีฬาที่มีความหวังจะได้เหรียญรางวัล เพราะครั้งนี้ไปแข่งที่ทวีปยุโรป งบประมาณสูง คงไม่สามารถให้นักกีฬาไปหาประสบการณ์ได้ เพราะคู่แข่งในยุโรปที่ฝีมือดีคงร่วมแข่งขันมาก อย่างไรก็ตามหลังจบการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 46 ในเดือนมกราคม ปีหน้า ก็จะมีการเตรียมความพร้อมของนักกีฬาชุด ม.โลก

Advertisement

หวังฟุตบอลชายได้กลับไปแข่งที่นาโปลี

นายอาคม สมุทรโคจร ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาย ม.อาเซียน ครั้งที่ 19 แชมป์สมัยที่ 16 กล่าวว่า หลังจากได้แชมป์ที่พม่าแล้ว ทำให้เห็นว่านักเตะชุดนี้หลายคนเป็นนักเตะที่มีศักยภาพ จึงอยากจะให้มีการต่อยอดไปในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะกีฬา ม.โลก รอบมหกรรม ที่ฟุตบอลชายไทยไม่ได้ไปแข่งขันมาหลายครั้งแล้ว ทั้งๆ ที่ผลงานก่อนหน้านั้นก็ทำได้ดีกว่าเพื่อนร่วมอาเซียนอย่างมาเลเซีย แต่ติดปัญหาที่ไม่ได้ส่งแข่งอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สหพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยโลก(ฟิซู่) ตัดโควต้าของไทยออกไป อย่างไรก็ตาม รศ.วิชิตก็ได้เดินหน้าหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ในเรื่องนี้ ถึงแม้โอกาสจะน้อย แต่ถ้าลองเดินหน้าก่อน ก็มีโอกาสจะได่ร่วมแข่งขันไม่ครั้งหน้าที่เมืองนาโปลี หรือไม่ก็ครั้งต่อๆ ไป

ทั้งนี้ หลังจากจบภารกิจ ม.อาเซียน นักกีฬาปัญญาชนไทยเกือบทั้งหมด เตรียมจะลงแข่งขันในนามสถาบัน ในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 46 “ราชภัฏอุบลราชธานีเกมส์” ระหว่างวันที่ 11-20 มกราคม 2562 ที่ จ.อุบลราชธานี แข่งขันทั้งหมด 34 ชนิดกีฬา และกีฬาสาธิต 2 กีฬา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image