สกู๊ป : ‘ช้างศึก’ ฝ่ามรสุมเอเชี่ยนคัพ2019 กรุยทางสู่ศึกใหญ่แห่งทวีปเอเชีย

“ช้างศึก” ทีมชาติไทย เคยเข้าไปโลดเเล่นอยู่ในเวทีฟุตบอลระดับชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย “เอเชี่ยนคัพ” หลายต่อหลายครั้ง โดยผลงานที่ดีที่สุดคงต้องย้อนกลับไปถึงปี 1972 เป็นปีที่นักฟุตบอลทีมชาติไทยทำผลงานได้ดีที่สุด จบอันดับ 3 ของรายการ จากการดวลจุดโทษชนะ ทีมชาติกัมพูชา 5-3 ประตู ซึ่งหลังจากนั้นมาทีมชาติไทยไม่เคยผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ได้อีกเลยเป็นระยะเวลาร่วม 47 ปีมาแล้ว…

หลังจากผลการเเข่งขันเอเชี่ยนคัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รอบเเบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย คืนวันจันทร์ที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ทีมชาติไทยตีเสมอทีมเจ้าภาพไปอย่างสุดมัน 1-1 ถึงจะไม่ใช่ชัยชนะ เเต่ก็เพียงพอให้ทะลุผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ เเละทำให้คนได้ทั้งประเทศเกิดความคาดหวังให้ทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นมาสักครั้งหนึ่ง

เส้นทางการเเข่งขันของนักเตะทีมชาติชุดนี้อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพียงเริ่มต้นการเเข่งขันรอบเเบ่งกลุ่ม นัดเเรก ก็พลาดท่าให้กับ ทีมชาติอินเดีย ไปถึง 1-4 หลังการเเข่งขันจึงมีการไล่ผู้จัดการทีมอย่าง มิโลวาน ราเยวัช โค้ชชาวเซอร์เบียร์พ้นจากตำเเหน่งในเช้าวันถัดมาทันที ทำให้เกิดคำถามต่อมาว่า “ใครกัน” ที่จะก้าวเข้ามาทำหน้าที่คุมทัพช้างศึกให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตอีก 2 นัดข้างหน้า เพื่อผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายให้ได้

Advertisement

ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หรือ “โค้ชโต่ย” โค้ชชาวไทย อดีตผู้ช่วยโค้ชมือขวาของ มิโลวาน ราเยวัช ถูกเลือกให้ทำหน้าที่รักษาการผู้จัดการทีมชั่วคราวของทีมชาติไทย โดยมี “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วยมือขวาคนสำคัญ

การเข้ามาทำทีมของโค้ชโต่ยในช่วงเเรกเกิดเสียงวิจารณ์ถึงความเชื่อมั่นในฝีมือของโค้ชโต่ย เนื่องจากยังไม่เคยมีผลงานในระดับการคุมทีมชาติมาก่อน เเละเเฟนบอลชาวไทยตั้งความหวังไว้อย่างมากที่จะให้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตผู้จัดการทีมชาติไทยที่เคยพานักฟุตบอลทีมชาติไทยประสบความสำเร็จมาเเล้วในปี 2014-2017 มารับตำเเหน่งโค้ชทีมชาติไทยมากกว่า

เเต่เนื่องจากปัญหาความไม่ลงตัวระหว่าง “ซิโก้” กับ นายกสมาคมฟุตบอลเเห่งประเทศไทย “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จึงทำให้การเข้ามาคุมทีมชาติของซิโก้ไม่เกิดขึ้น ท่ามกลางกระเเสต่อต้านนายกสมาคมฟุตบอลเเห่งประเทศไทยให้พ้นจากตำเเหน่งเสียที

Advertisement

เเต่การเข้ามาของ “โค้ชโต่ย” เป็นเหมือนการต่อลมหายใจให้กับท่านนายกสมาคมฟุตบอลของไทยออกไปอีก เพราะสามารถคืนชีพทัพช้างศึกให้ผ่านเข้ารอบรายการฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชี่ยไปได้อย่างเฉียดฉิว

ระบบการเล่นที่ถูกเปลี่ยนไปจากเดิม การจัดตำเเหน่งนักเเตะให้มีความเหมาะสมมากขึ้น รวมถึงการปลุกจิตวิญญาณความกระหายชัยชนะให้กับนักเตะทุกคน คือส่วนสำคัญที่ทำให้โค้ชโต่ยได้รับความชื่นชมจากแฟนบอลเพิ่มมากขึ้น

จุดเด่นที่ทัพช้างศึกยุคใหม่มีนั้นเห็นได้ชัดจากเกมรุกที่มีความดุดันมากยิ่งขึ้น การให้โอกาสนักเตะอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือ “เมสซี่เจ” ได้กลับมาทำหน้าที่เดินเกมรุกให้กับทีมอีกครั้ง เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของโค้ชโต่ย หลังจากที่นักเตะไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจจากโค้ชคนเก่าเท่าไหร่นัก

ส่วนปัญหาที่เป็นจุดด้อยของทัพนักเตะชุดนี้คือการขาดผู้เล่นกองหน้าที่สามารถฝากความหวังในการทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นกองหน้าอย่าง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา เเละ “กอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร จึงจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ในนัดต่อไปในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่จะเป็นเเมตชี้ชะตาของทีมชาติกับถ้วยเอเชี่ยนคัพรายการนี้

เส้นทางลุ้นเเชมป์จากนี้ไปของทัพช้างศึกคือ รอผลการเเข่งขันจากกลุ่มซี ระหว่าง ทีมชาติจีน หรือ ทีมชาติเกาหลีใต้ เพื่อทำการเเข่งขันอีกครั้งในวันที่ 20 มกราคมนี้ ไม่ว่าผลการเเข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร เราจะได้พบกับทีมชาติไหน โอกาสเข้ารอบต่อไปยังเปิดกว้างอยู่เสมอ

หากเเฟนบอลชาวไทยให้การสนับสนุน ส่งเเรงใจ เเละเชียร์ทีมชาติอย่างสร้างสรรค์ ก็จะทำให้นักเตะมีกำลังใจที่จะทำผลงานเพื่อชาติไทยต่อไป…



ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image