“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลชาติไทย เข้าแข่งขันเอเชี่ยนคัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) ซึ่ง “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ขึ้นมารับหน้าที่หัวหน้าโค้ชขัดตาทัพ ร่วมมือกับ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ช่วย หลังจากที่ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือเซอร์เบีย โดนปลด ด้วยผลงานเปิดสนามกลุ่มเอ แพ้ อินเดีย 1-4 ซึ่ง “โค้ชโต่ย-โค้ชโชค” กู้สถานการณ์ พาทีมชนะ บาห์เรน 1-0 ต่อด้วย เสมอ “เจ้าภาพ” ยูเออี 1-1 จนเข้ารอบน็อกเอาท์สำเร็จ เกิดกระแสชื่นชมการทำหน้าที่
“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ต้องชื่นชมการทำงานของทั้งโค้ชโต่ย และ โค้ชโชค ซึ่งในส่วนของ โค้ชโต่ย-ศิริศักดิ์ ที่เป็นเฮดโค้ชขัดตาทัพในเอเชียนคัพนั้น แม้ระเบียบของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ “เอเอฟซี” ระบุว่า เฮดโค้ชทีมชาติ ต้องจบหลักสูตร “โปร-ไลเซนส์” ทว่ากรณี โค้ชโต่ย ซึ่งจบ “เอ-ไลเซนส์” นั้น สมาคมฯ ทำเรื่องไปว่า กำลังจะเข้าอบรม “โปร-ไลเซนส์” อยู่แล้ว จึงเป็นข้อยกเว้น
ประมุขลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า สมาคมฯ ส่งเสริมโค้ชไทยให้อบรมหลักสูตรระดับสูงของเอเอฟซี ในการอบรมโปร-ไลเซนส์ ก็สามารถยืมเงินจาก สมาคมฯ โดยไม่คิดดอกเบี้ย เช่นเดียวกับ โค้ชโต่ย ที่เข้าอบรม “โปร-ไลเซนส์” ส่วน โค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ ตอนนี้จบ ซี-ไลเซนส์ ก็ได้บอกให้เข้าอบรมหลักสูตรที่สูงกว่า เพื่อการทำงานกับสมาคมฯ ต่อไป
“ในส่วนของการตั้งเฮดโค้ชทีมชาติไทย ไม่ว่าใครหากเข้าตามคุณสมบัติ ก็มีโอกาส ซึ่งในราย โค้ชโต่ย ตอนนี้จบเอ-ไลเซนส์ เราขอให้คุมทีมในเอเชี่ยนคัพได้ แต่รายการอื่นต้องดูข้อบังคับ เอเอฟซี อีกที แต่ไม่ว่าอย่างไร ทั้ง โค้ชโต่ย และโค้ชโชค ซึ่งต่างมีฝีมือ สมาคมฯ จะใช้งานกันยาวๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับบอลไทย ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนก็ตาม”
