ไทม์มิ่งไม่ดี! ‘บิ๊กอ๊อด’ เผย ‘โต่ย-โชค’ ไม่ได้คุมช้างศึกต่อในห้วงฉลองชัย!

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดแถลงขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ ทีมชาติไทย บุกเอาชนะทีมชาติจีน 1-0 ในศึกไชน่า คัพ 2019 นัดแรก ที่ สนามกว่างซี สปอร์ต เซ็นเตอร์ ท่ามกลางแฟนบอลเกือบ 30,000 คน เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปรอพบกับผู้ชนะของคู่ระหว่าง อุรุกวัย พบกับ อุซเบกิสถาน

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ ผู้ฝึกสอน, ทีมงาน และน้องๆทุกคน ที่สามารถเอาชนะทีมชาติจีนได้ ทำให้แฟนบอลชาวไทยมีรอยยิ้มและสร้างความสุขให้กับพวกเรา ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนบอลชาวไทยที่ตามไปเชียร์น้องๆ ถึงขอบสนาม นี่คือกำลังใจสำคัญที่ทำให้น้องๆสร้างผลงานออกมาได้ดี

“ในวันอาทิตย์หลังผมใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้ว ก็จะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อชมเกมการแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ ไปให้กำลังใจน้องๆ และดูแลความสะดวกในเรื่องอื่นๆด้วย สำหรับโค้ชโต่ย (นายศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย) และโค้ชโชค (นายโชคทวี พรหมรัตน์) ที่ทางสมาคมฯ แต่งตั้งให้เขาทั้งสองคนไปทำหน้าที่ในครั้งนี้ เนื่องจากในการแข่งขันเอเชี่ยน คัพ ทั้งสองคนทำผลงานได้ดี ครั้งนี้จึงให้ไปทำหน้าที่อีกครั้ง”

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ส่วนในการแข่งขันฟุตบอลคิงส์ คัพ โค้ชโต่ย จะได้คุมหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะสะดวกไหม เพราะว่าเขาเองอยู่ในช่วงของการเรียน โปร ไลเซ่น ตอนนี้ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันมี ไทย, อินเดีย, เวียดนาม ส่วนอีกหนึ่งทีมอยู่ในช่วงการเจรจา เรื่องของสถานที่จัดการแข่งขัน ยืนยันว่าไม่ใช่ราชมังคลากีฬาสถานแน่นอน เพราะอยู่ในช่วงการปรับปรุง เราเลือกต่างจังหวัด เลือกสนามที่ได้มาตราฐาน การเดินทางสะดวก ซึ่งตรงนี้เรื่องของรายละเอียดต้องคุยกันครั้งก่อนยืนยันแน่นอน

Advertisement

“เรามีข้อจำกัดเรื่องโค้ชเพราะโต่ย กับโชค ยังไม่ได้โปรไลเซ่น ดังนั้นหลับจบทัวร์นาเมนต์นี้ทั้งโต่ย และโชค จนหมดหน้าที่ ซึ่งเราก็อยู่ระหว่างการหาโค้ชโปรไลเซ่นมาทำหน้าที่เฮดโค้ชทีมชาติไทยคนใหม่อยู่ ที่ผ่านมาก็มีทยอยปฏิเสธเพราะการเจรจาเงื่อนไขปลีกย่อยไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน ก็คงต้องหากันต่อไปโดยไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าต้องได้โค้ชคนใหม่ในห้วงเวลาใด” บิ๊กอ๊อดกล่าว

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐบาล ก็อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องของกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอล เพราะว่าในอนาคตข้างหน้า อาเซียนเราจะได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลหลายๆ รายการ แต่บางสิ่งบางอย่างของเราก็ยังไม่พร้อม เช่น เรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกเรื่องของกีฬาฟุตบอลยังไม่เพียงพอถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน สนามที่ตรงตามมาตราฐาน สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย มีน้อยมาก และในช่วงปลายปี เราจะได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย เราก็ไม่อยากเสียโอกาสเหล่านี้ไป เพราะยังมีหลายประเทศที่รอต่อเราอยู่

สำหรับทีมชาติไทยจะแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ กับผู้ชนะของคู่ระหว่าง ทีมชาติอุรุกวัย ที่จะพบกับ ทีมชาติอุซเบกิสถาน ในวันที่ 25 มีนาคม 2562 เวลา 18.35 น. ที่สนามกว่างซี สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image