การแข่งขันมวยสากลนานาชาติชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ **“ไทยแลนด์ โอเพ่น”** ค.ศ.2019/พ.ศ.2562 ของ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ที่สิ้นสุดลงไปหมาดๆ นั้น เป็นสัญญาณบ่งบอกนัยยะสำคัญหลายประการ ของนักมวยสากลทีมชาติไทย (ชาย-หญิง) ที่กำลังอยู่ในเส้นทางการเตรียมพร้อม ไปสู่รอบคัดเลือก กีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 32 “โตเกียว 2020”
มวยสากล “ไทยแลนด์ โอเพ่น 2019″ ที่อาคารนิมิบุตร เมื่อวันที่ 20-27 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันประเภทประชาชนชาย และประชาชนหญิง มีนักมวยทั้งหมด 427 คน จาก 32 ประเทศ จากทุกทวีปทั่วโลกมาร่วมแข่งขันในรุ่นน้ำหนักโอลิมปิกเกมส์ อย่างเป็นทางการ
ประเภทประชาชนชาย มี 8 รุ่น ผลปรากฏว่า ทีมไทยชุด เอ ชนะเลิศคะแนนรวมจากผลงาน 3 ทอง 2 เงิน คว้าถ้วยพระราชทานไปครอง เป็นผลงาน 3 ทองจาก ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี รุ่น 56 กก., วุฒิชัย มาสุข รุ่น 69 กก. และ อนวัช ถองกระโทก รุ่น 81 กก.
ขณะที่ ทีมไทยชุด บี มีผลงาน 1 ทอง 1 เงิน โดยเป็นเหรียญทองจาก อธิชัย เพิ่มทรัพย์ อดีตเหรียญทองมวยเยาวชนโลก 2018 และอดีตเหรียญทองยูธ โอลิมปิกเกมส์ 2018 เมื่อปีที่แล้ว ผู้โชว์ฟอร์มพลิกความคาดหมายเอาชนะ สมชาย วงศ์สุวรรณ ตัวเต็งรุ่นพี่จากทีมไทยชุด เอ มาได้แบบคาดไม่ถึง
ประเภทประชาชนหญิง มี 6 รุ่นปรากฏว่า จีน กวาดไป 3 ทอง ครองถ้วยพระราชทานไปในฐานะทีมชนะเลิศคะแนนรวม ที่เหลืออีก 3 ทองกระจายกันไปที่ ออสเตรเลีย, ฟิลิปปินส์ และทีมไทยชุด เอ โดยทีมไทยชุด เอ ได้เหรียญทองจาก จุฑามาศ รักสัตย์ รุ่น 48 กก. ที่ชนะคะแนน รัชนีพร สีกะโดน ทีมไทยชุด บี และ 2 เหรียญเงินจากตัวความหวังของทีม คือ นิลาวัลย์ เตชะสืบ รุ่น 57 กก. และ สุดาพร สีสอนดี รุ่น 60 กก.
ภาพรวมผลงานดังกล่าวนั้น สรุปได้อย่างชัดเจนว่า ทีมชายนั้น ยังได้ลุ้นจาก 2 ตัวเก๋า คือ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี, วุฒิชัย มาสุข เท่านั้นเอง ความหวังอีกคนอย่าง สมชาย วงศ์สุวรรณ นั้น ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้เท่าที่ควร ยังต้องลุ้นกันอีกหนักหนานัก เวลาเดียวกันนั้น ความหวังใหม่จากนักมวยรุ่นใหม่อย่าง อธิชัย เพิ่มทรัพย์ ที่เพิ่งอายุได้ 19 ปี และเพิ่งมีสิทธิแข่งขันประเภทประชาชนได้นั้น ถือว่า ยังเป็นแค่ “เก่งเล็ก” เท่านั้นเอง เมื่อเปรียบเทียบกับ “เก่งใหญ่” ของนานาชาติในรุ่นน้ำหนักเดียวกัน
ทีมหญิงนั้น 2 ความหวังอย่าง นิลาวัลย์ เตชะสืบ รุ่น 57 กก. และ สุดาพร สีสอนดี รุ่น 60 กก. ยังฝากผีฝากไข้ไม่ได้อย่างแท้จริง ยังไม่มีความแน่นอน และยังต้อง “ติวเข้ม” กันอีกขนานใหญ่
บทสรุปภาพรวมของนักมวยทีมชาติไทยจาก “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ครั้งนี้ จึงฟันธงได้อย่างตรงไปตรงมาว่า ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังไม่น่าพอใจ เมื่อเปรียบเทียบกับนักมวยของชาติชั้นนำอื่นๆ ในทวีปเอเชียด้วยกันเอง
แปลไทยเป็นไทยได้อีกแบบหนึ่งว่า…นักมวยไทยยังพอมีความหวังในการลุ้นผ่านรอบคัดเลือก ไปสู่ “โตเกียว 2020” ได้พอสมควร แต่ยังไม่มีความหวังเป็นรูปธรรมชัดเจน สำหรับการได้ลุ้น เหรียญรางวัล เหรียญหนึ่งเหรียญใดจากกีฬาโอลิมปิกเกมส์ในปีหน้า โดยเฉพาะ “เหรียญทอง” อันเป็นสุดยอดปรารถนาของคนไทยทั้งชนชาติ!!
นี่คือ การบ้านสำคัญของผู้บริหาร สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย รวมทั้งบรรดาผู้ฝึกสอนภายใต้การนำของ ฮวน ฟอนตาเนียล ในขณะนี้
ภายในเดือนสิงหาคม 2562 นั้น สมาคมกีฬามวยสากลฯ โดยฝ่ายเทคนิคและสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย จะมีการสรุปร่วมกันอย่างเป็นทางการ ในการคัดเลือกตัว กำหนดตัว “ทีมชาติไทย” เพื่อเข้าแผนเตรียมคัดเลือกตัวไปสู่ “โตเกียว 2020”
นับจากบัดนี้ จนถึงปลายปี 2562 นี้ ทีมมวยสากลไทยมีการแข่งขัน 3 รายการสำคัญคือ
1.การแข่งขัน มวยสากล (ชาย) ชิงแชมป์โลก ค.ศ.2019 ที่เมืองเอคาเทรินเบิร์ก รัสเซีย วันที่ 7-21 กันยายน 2562
2.การแข่งขัน มวยสากล (หญิง) ชิงแชมป์โลก ค.ศ.2019 ที่เมืองอูลัน อูเด รัสเซีย วันที่ 3-13 ตุลาคม 2562
3.การแข่งขัน มวยสากล (ชาย-หญิง) กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ วันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2562
ต่อจากนั้น ในต้นปีหน้า ค.ศ.2020/พ.ศ.2563 ก็จะมีรายการสำคัญ 2 รายการที่พลาดไม่ได้เลย คือ
มวยสากลกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 32 “โตเกียว 2020” รอบคัดเลือก (ชาย-หญิง) โซนเอเชียโอเชียเนีย ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่างเดือนมกราคม -เดือนมีนาคม 2563
มวยสากลกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ครั้งที่ 32 “โตเกียว 2020” รอบคัดเลือกครั้งสุดท้าย (ชาย-หญิง) โซนนานาชาติ ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น เดือนพฤษภาคม 2563
ฮวน ฟอนตาเนียล หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยบอกว่า จากคิวแข่งขันดังกล่าว ได้เสนอให้ฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลฯ พิจารณาส่งนักมวยไทยชุดเป้าหมาย ไปเก็บตัวฝึกซ้อมล่วงหน้า “เทรนนิ่ง แค้มป์” ในต่างประเทศ คือ ทีมชายไปที่ เยอรมนี ครั้งหนึ่ง จากนั้น ทีมชายและทีมหญิงไป รัสเซีย ก่อนการแข่งขันชิงแชมป์โลกทั้ง 2 รายการ อย่างน้อย 1 เดือนล่วงหน้า
ถึงปลายปี ต่อต้นปีหน้า ฟอนตาเนียล เสนอแผนงานส่งทีมชายไปเก็บตัวฝึกซ้อม ตระเวนแข่งขันที่คิวบา 1-2 เดือน โดยมีเป้าหมายไปปักหลักที่เมืองทามาเวย์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีนักมวยชั้นนำระดับ ทีมชาติคิวบาชุดปัจจุบัน มากที่สุด ทั้งระดับประชาชน และเยาวชน
ส่วนทีมหญิงนั้น เสนอส่งไปร่วม “เทรนนิ่ง แค้มป์” ที่ทวีปยุโรป คือ อังกฤษ-ไอร์แลนด์ ช่วงเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน
หลังจากนั้น จะเป็นการรวมทีมไทยมุ่งหน้าไปที่จีน เพื่อลุ้นรอบคัดเลือก “โตเกียว 2020” ครั้งแรก ตามกำหนดต่อไป
เมื่อทุกอย่างผ่านการหารือ และตกลงร่วมกันแน่นอนแล้ว สมาคมจะประกาศแผนงานของ ทีมชาติไทยชุดเตรียม “โตเกียว 2020” อย่างเป็นทางการ ต่อไป
เป็นการเริ่มต้นนับถอยหลังสู่ “โตเกียว 2020”…!
