สกู๊ปกีฬา : ปมโด๊ปยกเหล็กร้อนฉ่า – ความหวังที่ยากขึ้นทัพอลป.ไทย

กีฬาความหวังของไทยในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์หลายครั้งหลัง มียกน้ำหนัก, เทควันโด, มวยสากลสมัครเล่น ที่สร้างความสำเร็จได้มาตลอด โดยเฉพาะยกน้ำหนักที่ขึ้นแท่นเป็นกีฬาที่ทำเหรียญรางวัลให้บ้านเราได้มากที่สุดแล้ว ที่ 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง แซงหน้ามวยที่ทำได้ 4 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง

อย่างไรก็ตามในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในเวลาอีกไม่ถึง 1 ปีข้างหน้า เราอาจจะไม่ได้เห็นจอมพลังไทยไปล่าเหรียญ!

ต้นสายปลายเหตุที่ว่า มาจากการที่องค์การต่อต้านการใช้ต้องห้ามโลก(วาด้า) ได้ตรวจพบสารต้องห้ามในนักยกน้ำหนักทีมชาติไทยชุดใหญ่ รวมทั้งสิ้น 13 ราย

“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ บอกว่า สารต้องห้ามที่พบเป็นยาทา ไม่ได้มีเจตนาในการฉีดหรือกิน ที่สำคัญเหมือนกับว่าไทยโดนกลั่นแกล้ง เพราะการสุ่มตรวจโด๊ปด้วยวิธีไออาร์เอ็มเอส ซึ่งเป็นวิธีใหม่ที่ละเอียดมากๆ กำหนดสุ่มตรวจนักยกน้ำหนัก 20 คนทั่วโลกเท่านั้น แต่ไทยกลับโดนตรวจถึง 10 คน แสดงให้เห็นว่ามีการเอนเอียงและพยายามเล่นงานนักกีฬาไทย

Advertisement

“แนวทางในตอนนี้ คือ ให้นักกีฬาที่ไม่เกี่ยวกับการลงโทษครั้งนี้ ซ้อมต่อเนื่องและส่งแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนลุ้นโควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นได้ว่าไทยอาจจะได้ไปชาย 2 คน หญิง 2 คน หรืออย่างละ 1 คน ก็ต้องสู้กันไปด้วยวิธีนี้” เสธ.ยอดกล่าว

 

 

ล่าสุด สำนักข่าวเอเอฟพี ได้มีการรายงานว่า ในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2019 ที่เมืองพัทยา ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 18-27 กันยายน สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติจะไม่ให้นักกีฬาไทยลงแข่งขัน สืบเนื่องจากการถูกตรวจพบสารต้องห้าม ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องกับการได้โควต้าไปแข่งขันโตเกียว 2020 โดยตรง
การไม่ให้เจ้าภาพแข่งขันในบ้านตัวเอง ทั้งๆ ที่ลงทุนจัดการแข่งขันมหาศาล นับเป็นการเอาเท้าลูบหน้าวงการยกเหล็กไทยเลยก็ว่าได้ เพราะคงไม่มีใครอยากจัดงานในบ้านตัวเอง ให้คนอื่นมาสนุกกัน แล้วเจ้าของบ้านได้แต่นั่งมองแน่ๆ

อย่างไรก็ตามข่าวนี้ยังไม่มีการยืนยันจากสหพันธ์ เป็นเพียงการรายงานของสำนักข่าวที่น่าเชื่อถือ และคาดว่าจะมีการนำเข้าที่ประชุมของสหพันธ์ยกเหล็กโลก ที่จะมาประชุมในประเทศไทย ช่วงก่อนการแข่งขันชิงแชมป์โลกว่า จะให้ไทยได้แข่งขันศึกชิงแชมป์โลก รวมทั้งโอลิมปิกได้หรือไม่

 

 

“รองตูน” ณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กกท.ได้สอบถามความคืบหน้ากับทางสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ มาตลอด ยังไม่มีการยืนยันว่าจะไม่ได้แข่งขัน เป็นเพียงการรายงานของสื่อเท่านั้น แต่สถานการณ์ในตอนนี้นับเป็นความสุ่มเสี่ยงและเสียหายมาก เนื่องจากยกน้ำหนักเป็นกีฬาความหวังของไทย สร้างเหรียญรางวัลได้มาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องเดินหน้าช่วยกันผลักดันให้ไทยได้สิทธิแข่งขันทั้งชิงแชมป์โลกและโอลิมปิกให้ได้

“ตอนนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเตรียมให้ความช่วยเหลือสมาคมยกน้ำหนักกันอยู่ ฝ่ายตรวจสารต้องห้ามพร้อมจะเป็นกำลังหนุนในการให้ข้อมูลกับทางวาด้าและสหพันธ์เพิ่มเติม แต่ก็ต้องรอความชัดเจนจากทางสหพันธ์เป็นหลัก ถึงจะเดินหน้ากันต่อไปได้”

รองตูนยอมรับว่า ถ้าไม่สามารถแก้ต่างได้ และยกน้ำหนักไม่ได้ไปแข่งขันโตเกียว 2020 นับเป็นความเสียหายทั้งเรื่องของภาพลักษณ์ของกีฬาไทย ความคาดหวังเหรียญรางวัล และจิตใจของนักกีฬาเองด้วย เพราะหลายคนที่ถูกแบนเคยเป็นแชมป์โอลิมปิกกันมา ส่งผลถึงการส่งแข่งในอนาคต ดังนั้นจึงต้องช่วยกันแก้ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อไม่ให้มีผลเกี่ยวโยงไปกว่านี้

 

ตอนนี้กีฬาความหวังอย่างยกน้ำหนักก็อยู่ในสภาวะที่ไม่แน่นอน มวยสากลสมัครเล่นเตรียมจะคัดโควต้า ซึ่งก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะได้หรือไม่ และได้กี่คน แต่เชื่อว่าจะมีนักชกไทยได้ไปแข่งขันแน่นอน ขณะที่ยิงเป้าบิน ที่ได้โควต้าจาก เศวต เศรษฐาภรณ์ ยังมีลุ้นจาก “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร ที่ได้โควต้าไปมาแล้ว 3 ครั้ง ก็ยังคงล่าตั๋วอย่างต่อเนื่อง ส่วนเทควันโดที่ได้สิทธิแน่ๆ แล้ว 1 คน คือ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ มือ 1 ของโลก รุ่น 49 กก.หญิง แต่ก็ไม่อยากไปสร้างความกดดันหรือฝากความหวังไว้ที่ใครเพียงคนเดียว

“ตอนนี้ถ้าจะบอกว่าเทควันโดเป็นกีฬาที่มีความหวังสูงสุดในการคว้าเหรียญโอลิมปิกก็ไม่ผิด เพราะถ้าดูตามเนื้อผ้าและผลงานก็หวังได้ แต่ไม่อยากให้ไปกดดัน เพราะกีฬาอะไรก็เกิดขึ้นได้ สิ่งที่นักกีฬาตัวความหวังเหรียญต้องทำ คือ สมาคมไม่ควรส่งไปแข่งขันถี่เกินไป เลือกแต่รายการสำคัญ และต้องให้มีนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลสภาพจิตใจอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กดดันเกินไป จนส่งผลเสียในการแข่งขันได้” รองตูนกล่าว

คงต้องจับตามองกันในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนศึกยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกว่า สมาคมยกเหล็กไทยจะแก้ต่างความผิดเพื่อกลับมาสู่จุดที่ควรจะเป็นได้หรือไม่ อีกไม่ถึง 1 เดือน ทุกอย่างก็จะชัดเจนกว่านี้

โดยเฉพาะจะได้รู้ว่า กีฬาความหวังของไทยในโตเกียว 2020 ที่แท้จริง จะเหลือสักกี่กีฬากัน!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image