‘จุฑาธิป’ ผงาดคว้าอันดับ 2 ที่เบลเยียม ผู้ชมทึ่งทีมปั่นสาวไทยผนึกกำลังกัน

“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนเองได้รับรายงานจาก “โค้ชตั้ม” นายวิสุทธิ์ กสิยะพัท ในฐานะผู้จัดการทีม และหัวหน้าผู้ฝึกสอน ถึงความเคลื่อนไหวของนักกีฬาจักรยานทีมอาชีพหญิง “ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม” ที่อยู่ระหว่างไปตระเวนแข่งขันในทวีปยุโรป ล่าสุด เมื่อคืนวันพุธที่ 21 สิงหาคม ตามเวลาในเมืองไทย ทีมนักปั่นสาวไทยได้ลงแข่งขันรายการ 2de Grote Prijs Stad Torhout ที่ประเทศเบลเยียม เป็นรายการแข่งขันนานาชาติ มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน 70 คน จากหลากหลายประเทศ

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า การแข่งขันรายการนี้สภาพภูมิอากาศดี ไม่มีฝนตก สภาพพื้นถนนก็เรียบไม่ต้องลุยทางก้อนหินเหมือนรายการที่ผ่านๆ มา และอยู่ในตัวเมือง ปั่นเป็นรอบ รอบละ 7.8 กม. แข่งทั้งหมด 12 รอบ รวมระยะทาง 93.6 กม. ความเร็วเฉลี่ย 39.22 กม.ต่อชั่วโมง โดยทุกรอบมีจุดสปรินต์ “เจ้าความเร็ว” หรือ IS ให้นักกีฬาเก็บเงินรางวัล สำหรับแผนการแข่งขันได้วาง “ไก่” ศุภักษร นันตะนะ กับ “บีม” ชนิภรณ์ บัตริยะ เป็นตัวปั่นหนี แล้วให้ “กัปตันจันทร์” จันทร์เพ็ง นนทะสิน กับ “แพร” เพชรดารินทร์ สมราช เป็นตัวพา “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ ไล่เก็บ ขณะที่ “ลอร่า” อภิญญา เทียงแก้ว จะเป็นตัวรับน้ำ และรอครึ่งหลังค่อยออกอาวุธ

“โค้ชตั้ม” กล่าวอีกว่า พอเริ่มออกตัวทีมปั่นสาวไทยก็ออกอาวุธกันเร็วมาก พอถึงรอบที่สอง “ไก่” ศุภักษร นันตะนะ มีจังหวะกระชากหนีพรวดเดียวหลุดเดี่ยวขึ้นมานำ หนีไปคนเดียว 2 รอบกว่า โดยเก็บเงินรางวัลเจ้าความเร็วได้ทั้ง 2 รอบ แล้วก็โดนกลุ่มใหญ่ไล่ทัน ช่วงสี่รอบสุดท้าย เคลลี่ ฟาน เดน สตีน นักปั่นโปรทัวร์เจ้าถิ่น จากทีมลอตโต้ โซดาล เลดี้ส์ กระแทกฉีกออกมาคนเดียวโดยไม่มีใครไล่ ทำให้ เคลลี่ หนีไปคนเดียว และทำเวลาห่างพอสมควร เมื่อเหลือสองรอบสุดท้าย นักปั่นสาวไทยทั้ง 6 คน ก็ผนึกกำลังกันตั้งทีมไล่ โดยไม่สนใจคู่แข่ง เพราะต้องการส่ง จุฑาธิป ให้ทันคนนำหน้าเพื่อสปรินต์แย่งเข้าเส้นชัย

“อย่างไรก็ตาม นักปั่นโปรชาวเบลเยียมมีความแข่งแกร่งและปั่นหนีได้ยอดเยี่ยมสมราคาระดับโปรทัวร์ จุฑาธิป ไล่ไม่ทันจึงมาสปรินต์แย่งอันดับ 2 กับกลุ่มใหญ่ โดยในช่วงโค้งสุดท้าย จุฑาธิป ยังอยู่อันดับ 10 กว่า ๆ และพอได้จังหวะสปรินต์ จุฑาธิป กระชากพรวดเดียวเข้าเส้นชัยก่อนใคร คว้าอันดับที่ 2 ไปครอง สร้างความงุนงงให้กับนักปั่นคนอื่นๆ อย่างมากว่าโผล่ออกมาแซงเข้าเส้นชัยได้อย่างไร อันดับที่ 3 เป็นของ ธันย่า อารัวจู เดอ ลิม่า นักปั่นชาวบราซิล จากทีมเมโมเรียล ซานโต๊ส ซึ่งทำเวลา 2.22.40 ชั่วโมงเท่ากัน ส่วนอันดับที่ 1 เคลลี่ ฟาน เดน สตีน ทำเวลา 2.21.14 ชั่วโมง” นายวิสุทธิ์กล่าว

Advertisement

“โค้ชตั้ม” กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้ จุฑาธิป จะได้เพียงอันดับที่ 2 แต่กลับได้ใจจากผู้ชมทั้งสนาม เพราะพวกเขาได้เห็นการผนึกกำลังกันตั้งทีมไล่แบบทุ่มเทสุดตัวของทีมนักปั่นสาวไทย ซึ่งปกตินักปั่นแถบยุโรปจะต่างคนต่างขี่ ไม่ค่อยทำงานกันเป็นทีมเท่าไหร่ บางครั้งยังป่วนกันเอง แต่พอสาวไทยแสดงความเป็นทีมเวิร์กให้เห็น จึงได้รับการยอมรับจากผู้ชมและนักแข่งด้วยกัน สำหรับรายการต่อไปของนักปั่นสาวไทย จะไปแข่งขันที่ประเทศลักเซมเบิร์ก ในวันที่ 25 ส.ค. เป็นรายการระดับนานาชาติ แต่ไม่ได้บรรจุลงปฏิทินแข่งขันของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือยูซีไอ

สำหรับการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติรายการ “ทัวร์ เดอ อินโดนีเซีย 2019” ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในระดับ 2.1 ของยูซีไอ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. เป็นการแข่งขันสเตจที่ 4 จากเมืองเจมเบอร์ ไปยังเมืองบันยูวังกี ระยะทาง 147.3 กม. ได้รับรายงานจาก ร้อยตำรวจเอกอดิศักดิ์ วรรณศรี ในฐานะผู้จัดการทีม และหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมปั่นอาชีพชาย “ไทยแลนด์ คอนคิเนนตัน” ซึ่งรายงานว่า เป็นเส้นทางขึ้นเขาตลอด และต้องปั่นขึ้นภูเขาไฟคาวาอีเจน ถือว่าเป็นช่วงที่โหดที่สุด นักปั่นทำความเร็วเฉลี่ย 41.23 กม. ต่อชั่วโมง ผลปรากฏว่า “เฟรม” ธนาคาร ไชยยาสมบัติ ได้อันดับ 2 ของเอเชีย และอันดับ 10 ของนักปั่นทั้งหมด ด้วยเวลา 4.21.36 ชั่วโมง และ “อเล็กซ์” อาริยะ พูลสวัสดิ์ ได้อันดับ 3 เอเชีย เวลา 4.21.38 ชั่วโมง

“ส่วนอันดับ 1 ของเอเชีย ได้แก่ อาเมียร์ โคลาดูอัซ ฮักห์ จากทีมไท่หยวน เมียวจี ไซคลิง ทีม จากจีน เวลา 4.17.23 ชั่วโมง ขณะที่อันดับที่ 1 ของนักปั่นทั้งหมดในสเตจที่ 5 เป็นของ เม็ตเคล อียอบ จากทีมตรังกานู ทีเอสจี ไซคลิงทีม จากมาเลเซีย เวลา 4.16.33 ชั่วโมง สำหรับสเตจที่ 5 ซึ่งเป็นสเตจสุดท้าย แข่งขันวันพรุ่งนี้ (23 ส.ค.) เส้นทางจากเมืองกีลีมานุก์ ไปยังอุทยานธรณีโลกบาตูร์ จังหวัดบาหลี ระยะทาง 143.6 กม. ช่วงแรกจะเป็นทางเรียบตลอด แต่ช่วงทางก่อนเข้าเส้นชัยจะเป็นภูเขา มีจุดสปรินต์แย่งชิงเจ้าความเร็ว (IS) จำนวน 3 จุด และเจ้าภูเขา (KOM) อีก 1 จุด ด้านนักปั่นไทยได้รวมใจกัน และจะทุ่มเทให้กับการแข่งขันสเตจสุดท้ายอย่างเต็มที่ เพื่อคว้าตำแหน่ง เบสต์ เอเชีย หรือเจ้าเอเชียมาครองให้ได้” ร้อยตำรวจเอกอดิศักดิ์กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image