“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาทีมชาติไทยไปแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติรายการ “เจแปน แทร็ค คัพ 2019” ในระดับคลาส 1 ที่เมืองชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด เมื่อ 24 ส.ค. เป็นการแข่งขันวันที่ 2 ตนเองได้รับรายงานจาก พ.อ.อ.นรุตม์ชัย ข้อยุ่น ผู้ฝึกสอนที่ร่วมทีมไปด้วย ถึงผลงานของนักกีฬาไทย ซึ่งนักกีฬาไทยลงชิงชัย 3 เหรียญทอง ผลปรากฏว่า ประเภทคีริน เยาวชนหญิง เยาวเรศ จิตมาตย์ คว้าอันดับ 3 มาครอง ส่วนที่ 1 ได้แก่ มาอิก้า คาเนดะ นักปั่นเจ้าภาพ และที่ 2 ยิน ชาน ชิง จากฮ่องกง ขณะที่ กัญญารัตน์ หน่อแก้ว นักปั่นของไทยอีกคนได้ที่ 5
พล.อ.เดชา กล่าวอีกว่า ในประเภทคีริน เยาวชนชาย นิติรุจน์ กิจพิริยะการณ์ ได้อันดับที่ 5 โดยแชมป์เป็นของ ยูตะ ฮิดากะ นักกีฬาญี่ปุ่น สำหรับ “ทีเจ” จาย องค์สุธาสาวิทย์ จะลงแข่งขันประเภทคีริน ประชาชนชาย สนามที่ 2 ในวันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.) ซึ่ง จายต้องพบกับคู่แข่งชุดเดิม โดยเฉพาะนักปั่นเจ้าถิ่นซึ่งฝีมือไม่ธรรมดา นำโดย โทโมยูกิ คาวาบาตะ อดีตรองแชมป์โลกปี 2018, ยูตะ วากิโมโต้ แชมป์เอเชียปี 2019 และ ยูได นิตตะ ซึ่งเป็นอดีตแชมป์โลก นับว่าเป็นศึกหนักสำหรับ จาย อย่างไรก็ตาม จาย ยังมีขวัญและกำลังใจดีเยี่ยม และพร้อมที่จะสู้กับนักปั่นญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
ด้านการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) ชิงแชมป์ประเทศไทย และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สนามที่ 3 ที่ จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม เป็นการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) ซึ่งพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานร่วมกับ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ โดยมี นายศิริชัย ศรีเหนี่ยง รอง ผวจ.สิงห์บุรี และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง ที่บริเวณวัดพิกุลทอง
ประธานได้ลงนามถวายพระพรที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วร้องเพลงสดุดีจอมราชา ร่วมกัน จากนั้นประธานลงนามถวายพระพร ที่หน้าพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนจะมีการปล่อยตัวนักกีฬาเวลา 09.00 น. ซึ่งมีนักกีฬาสนใจเข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
สำหรับเส้นทางการแข่งขัน ระยะทาง 46.50 กม. มีผลดังนี้ รุ่นทั่วไปชาย ที่ 1 นายวรากร ผอบแก้ว (100 ลี้) 1.11.34 ชั่วโมง, รุ่นอายุ 30-34 ปีชาย ที่ 1 นายนวทรัพย์ มณีสุขศรี (ช.นำชัย) 1.20.29 ชั่วโมง, รุ่นอายุ 35-39 ปีชาย ที่ 1 ธรรมรัตน์ ถวิล (Singha Gemburi) 1.13.03 ชั่วโมง, รุ่นอายุ40-44 ปีชาย ที่ 1 นายประยูร แม่นฉายา (SKB สาคารไบค์) 1.18.37 ชั่วโมง
รุ่นอายุไม่เกิน18 ปีหญิง ที่ 1 น.ส.อรวรรณ หมื่นทุม (TrinX-Chaoyang สิงห์บุรี) 1.33.54 ชั่วโมง, รุ่นทั่วไปหญิง ที่ 1 น.ส.ธีรรัตน์ พิทยานุรักษ์ (TrinX-Chaoyang สิงห์บุรี) 1.33.54 ชั่วโมง, รุ่นอายุ 35 ปีขึ้นไปหญิง ที่ 1 น.ส.อาทิตยา ปิตตานัง (อาชา Cycling Team) 1.33.5 ชั่วโมง ติดตามผลการแข่งขันทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ www.thaicycling.or.th
พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันสนามที่ 3 นี้ มีนักกีฬาสนใจเข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ขณะเดียวกันก็ทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นจังหวัดเล็ก ๆ มีความเฟื่องฟูอย่างมาก โรงแรมที่พักก็เต็ม เนื่องจากการแข่งขันทั้ง 2 วัน คือ เสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” มีนักกีฬามาแข่งหลายร้อยคน และนักปั่นแต่ละคนก็มีครอบครัวมาร่วมให้กำลังใจ มีการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าโอท็อป และอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าในวัดพิกุลทอง ทำให้มีเงินหมุนเวียนมหาศาล จนกระทั่ง นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี บอกว่าอยากให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ มาจัดการแข่งขันที่นี่ทุกปี
สำหรับวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม เป็นการแข่งขัน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” โดยมีพิธีเปิดการแข่งขันเริ่มเวลา 07.10 น. จากนั้นจะปล่อยตัวนักกีฬาเวลา 08.00 น. เริ่มจากรุ่น AV 40 ต่อด้วย รุ่น AV 35, รุ่น AV30 ปั่นระยะทาง 76.05 กม. ขณะที่รุ่นไม่จำกัด AV ปั่นระยะทาง 46.50 กม. ผู้ที่สนใจสมัครร่วมกิจกรรม สามารถสมัครได้ที่หน้างาน ค่าสมัคร 800 บาท
