ดร.ประพัน ไพรอังกูร รองอธิบดีกรมพลศึกษา เปิดเผยว่า กรมพลศึกษามุ่งเน้นนำวิทยาศาสตร์การกีฬา และเครื่องมือที่ทันสมัย มาใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพพื้นฐานของนักกีฬาไทย การพัฒนากีฬาของชาติ เพื่อนำไปสู่ความป็นเลิศในทุกระดับของการแข่งขัน ต้องเริ่มพัฒนาจากพื้นฐาน ผู้ฝึกสอน และนักกีฬา จำเป็นต้องใช้สมอง, ปฏิภาณไหวพริบ รวมถึงความสมบูรณ์ทางร่างกายและจิตใจ มาพัฒนาศักยภาพของตนเอง วิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นองค์ความรู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มศักยภาพของนักกีฬาให้สูงขึ้น สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมนำเครื่องมือที่ทันสมัย เข้ามาทำงานแบบครบวงจร ทั้งการวิจัย-พัฒนา, สมรรถภาพการกีฬา, เวชศาสตร์การกีฬาและพัฒนาเทคโนโลยีทางการกีฬา เช่น ลู่วิ่งทางตรง 100 เมตรในร่ม ฝึกการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐาน ศึกษาวิจัยเพื่อยกระดับนักกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ, ชุดทดสอบสมรรถภาพทางกาย 13 สถานี และเครื่องฝึกปฏิกิริยาตอบสนองต่อแสง
ดร.ประพัน กล่าวต่อว่า สำหรับงานบริการของสำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา ประกอบด้วย คลินิกกีฬา กลุ่มเวชศาสตร์การกีฬา ให้บริการตรวจ ประเมิน ส่งเสริม แนะนำ ป้องกัน บำบัด รักษา และฟื้นฟูสุขภาพ ให้แก่ประชาชนผู้มีอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา, กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพให้บริการศูนย์ออกกำลังกาย ด้วยอุปกรณ์ฟิตเนสมาตรฐานระดับสากล และกลุ่มพัฒนาสมรรถภาพทางกาย เปิดให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้ามาทดสอบสมรรถภาพทางกาย นำไปสู่การพัฒนาศักยภาพที่ถูกต้อง
