ควันหลงหลังเกม “ไทยลีก” นัดบิ๊กแมตช์ระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ การท่าเรือ 3-1 จ่อคว้าแชมป์ฟุตบอลไทยลีกในฤดูกาลนี้ กระทั่งเกิดดราม่าสนั่นโลกโซเชียล เพราะเกมดังกล่าว ทีมงานผู้ตัดสินท็อปฟอร์มอย่างมากจนสมควรได้แมนออฟเดอะแมตช์ไปครอง เพราะเป่าช่วยให้บุรีรัมย์หลายจังหวะแบบชัดเจนจนแฟนบอลรุมจวกการทำหน้าที่ของทีมงานเชิ้ตดำ ประกอบด้วย นที ชูสุวรรณ เป็นผู้ตัดสินที่ 1, ธเนศ ชูชื่น เป็นผู้ช่วยผู้ตัดสินคนที่ 1 และอภิชิต โนพวน เป็นผู้ช่วยผู้ตัดสินคนที่ 2
ที่ว่าท็อปฟอร์มนั้น จังหวะแรก เป็นจังหวะที่บุรีรัมย์ ไล่ตีเสมอ การท่าเรือ 1-1 จาก นาสเซอร์ บาราซิต นาทีที่ 34 จังหวะนั้น นาสเซอร์ บาราซิต ล้ำหน้าอย่างชัดเจน แต่ผู้ตัดสิน และผู้ช่วย ทำเป็นมองไม่เห็น เจตนาให้บุรีรัมย์ ได้ประตูแบบแฟนบอลงงกันเป็นไก่ตาแตก
อีกจังหวะที่เป็นประเด็นเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลัง เป็นจังหวะที่ นาสเซอร์ บาราซิต โดน เอเลียต ดอเลาะห์ กองหลังการท่าเรือ ทำฟาวล์นอกกรอบเขตโทษแต่บอลไหลไปเข้าทางของ ศศลักษ์ ไหประโคน ซึ่งผู้ตัดสิน นที ชูสุวรรณ ชูมือให้เล่นต่อไปเป็นจังหวะได้เปรียบของทีมบุรีรัมย์ แต่จังหวะดังกล่าว ศศลักษณ์ ซัดบอลข้ามคานออกหลังไป เมื่อผู้ตัดสินเห็นว่าบอลที่บุรีรัมย์ยิงนั้นข้ามคาน จึงเป่าย้อนหลังให้บุรีรัมย์ มาได้ฟรีคิกนอกกรอบจากจังหวะฟาวล์จังหวะแรกแบบที่ผู้เล่นการท่าเรือรุมประท้วงเพราะให้เป็นลูกได้เปรียบไปแล้ว
ซึ่งจังหวะฟรีคิกดังกล่าว เควิน อินเกรโซ่ ปั่นฟรีคิกสุดสวยเข้าประตูไปเป็นประตูชัยให้บุรีรัมย์ เอาชนะการท่าเรือไป 3-1 จ่อคว้าแชมป์แบบที่ค้านสายตาแฟนบอล
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม มีความเคลื่อนไหวออกมาจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แล้ว โดย พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท ส่งเรื่องให้คณะกรรมการประเมินผู้ตัดสิน พิจารณาการทำหน้าที่ของ นที ชูสุวรรณ พร้อมทีมงานรวม 4 กรณี
1.ประตูที่บุรีรัมย์ตีเสมอ 1-1 ล้ำหน้าหรือไม่
2.ท่าเรือควรได้จุดโทษหรือไม่ ในจังหวะ ศศลักษณ์ ไหประโคน กระแทก เซร์คิโอ ซัวเรซ
3.บอลแฉลบ เอเลียส ดอเลาะ เข้าทาง สุภโชค สารชาติ ล้ำหน้าหรือไม่
4.ประตู 3-1 ของบุรีรัมย์ เป็นลูกได้เปรียบที่สมบูรณ์แล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตามยังไม่มีบทลงโทษทีมงานผู้ตัดสินในเกมนัดดังกล่าวออกมา แต่คาดว่านัดสุดท้ายของฤดูกาลจะไม่มีชื่อทำหน้าที่
ทั้งนี้แฟนในโลกโซเชียลพยายามกดดันและเรียกร้องให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ลงโทษสถานหนักกับทีมงานผู้ตัดสินในนัดดังกล่าวด้วยการห้ามทำหน้าที่ตลอดชีวิตเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของวงการผู้ตัดสินเมืองไทยกลับคืนมา
