‘เดียร์ วทันยา’ โพสต์หนุนอาเซียนร่วมมือจัดฟุตบอลโลก 2034 ชี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน “เดียร์” น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว “เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี” ระบุว่า

หลังจากที่สมาชิกอาเซียนประกาศจับมือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2034 ที่เกิดขึ้นในการประชุมอาเซียนซัมมิท ต้องบอกว่าทำให้เดียร์และเชื่อว่าแฟนบอลอีกหลายคนต้องดีใจเป็นพิเศษ เพราะฟุตบอลโลกนอกจากจะเป็นความฝันสูงสุดของวงการฟุตบอลทีมชาติ แต่การจัดงานยังช่วยกระตุ้นระบบหมุมเวียนเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและยาวให้กับประเทศ ยกระดับกลุ่มอาเซียนให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก แต่เป้าหมายจะไปได้ถึงจริงหรือไม่ นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ

1. จากตัวเลขมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะได้รับเทียบกับมูลค่าการลงทุน หากเราดูกรณีตัวอย่างเจ้าภาพในรอบ 3 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่า ทั้งกรณีแอฟริกาใต้ บราซิลและรัสเซีย ต่างล้วนอยู่ในสภาวะที่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งมาจากสาเหตุหลายปัจจัย เช่น ทั้ง 3 ประเทศล้วนมีต้นทุนค่าก่อสร้างสนามแข่งขัน และพื้นฐานสาธารณูปโภคอื่นๆที่สูงมาก โดยเฉพาะหากเราย้อนดูกรณีเมื่อครั้งที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพปี 2006 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการกอบโกยรายได้เข้าประเทศเพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับบราซิลที่งบประมาณก่อสร้างบานปลาย มีปัญหาคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นมากมาย จนสร้างสนามเสร็จวินาทีสุดท้ายก่อนพิธีเปิด

2. ความเป็นเอกภาพของประเทศในอาเซียน ในการร่วมกันจัดงาน ยกตัวอย่างงานพิธีเปิด-ปิด ของฟุตบอลโลกที่จะถือเป็นไฮไลท์สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เราจะมีมาตรการอย่างไรในการคัดเลือกประเทศที่มีความพร้อมที่สุดในการเป็นเจ้าภาพ ซึ่งถ้าดูจากความพร้อมสนามปัจจุบันที่ต้องมีจำนวนที่นั่งอย่างน้อย 80,000 ที่นั่งตามข้อกำหนดของฟีฟ่า ก็ดูเหมือนจะมีเฉพาะ 2 ประเทศในอาเซียนที่มีความพร้อมปัจจุบันคือ อินโดนีเซียและมาเลเซีย เพราะสนามรัชมังคลาฯของไทยที่ใหญ่ที่สุดสามารถจุคนได้เพียงประมาณ 49,000 คนเท่านั้น ดันนั้นหากไทยต้องการคว้าพิธีเปิด หรือปิดฟุตบอลโลกมาจัดเองก็ต้องมีการลงทุนสนามแข่งเพิ่มเติม

Advertisement

นับว่ายังมีความท้าทายอีกหลายจุดโดยเฉพาะในการเตรียมทีมชาติเพื่อให้ทัดเทียมกับนานาชาติได้ หากอาเซียนต้องการเป็นเจ้าภาพจริง การพัฒนาวงการกีฬาฟุตบอลก็คงต้องทุ่มเทความสำคัญนับเป็นวาระหลักของประเทศอีกหนึ่งวาระ ส่วนจะคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนก็คงอยู่ที่ความสามารถของรัฐบาลที่จะวางแผนควบคุมต้นทุนไม่ให้เกิดปัญหาดังเช่นในกรณีประเทศบราซิล แต่ที่สำคัญแน่ๆคือ การลงทุนครั้งนี้สิ่งหนึ่งที่ประเมินค่าไม่ได้คือ ความสุขและความภูมิใจของแฟนบอลอาเซียนทุกคน และอีกสิ่งสำคัญนั่นคือความสามัคคีของคนในชาติที่สามารถสร้างได้ด้วยกีฬา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image