‘สิงโตคำราม’ โคตรดุขย้ำ ‘มอนเตเนโกร’ จมเขี้ยว 7-0 ไปยูโรปีหน้าแล้ว

“สิงโตคำราม” อังกฤษ สวมบทโหดอีกแล้วไล่ถลุง มอนเตเนโกร 7-0 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มเอ ที่เวมบลีย์ สเตเดี้ยม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเช้ามืดวันที่ 15 พฤศจิกายน

อังกฤษ โหมบุกตั้งแต่ต้นเกมผ่านมาถึงนาทีที่ 6 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน หลุดขึ้นไปเปิดบอลริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนตบเข้ามาหวังให้ แฮร์รี่ เคน ที่ยืนรอที่จุดนัดพบ แต่ถูก มิลาน มิจาโตวิช นายด่านทีมเยือนตัดบอลไว้ได้อย่างหวุดหวิด

นาทีที่ 11 อังกฤษ ออกนำ 1-0 จากจังหวะเปิดบอลโด่งของ เบน ชิลเวลล์ ตัดแผงหลังมอนเตเนโกรเลยไปถึง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่บรรจงดึงบอลลงด้วยเท้าขวาแล้วหวดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบมุมเสาไกลไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 17 สิงโตเกือบคำรามลั่นอีกครั้ง เมื่อ แฮร์รี่ เคน หักข้อส่งไปให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แล้วแทงบอลหลุดกับดักล้ำหน้าต่อไปถึง มาร์คัส แรชฟอ ที่ใช้ความเร็วควบขึ้นมารับบอลก่อนกดด้วยขวาเต็มข้อแต่ด้วยมุมที่มีไม่มากนักทำให้ไปติดเซฟ มิลาน มิจาโตวิช นายด่านมอนเตเนโกรที่รับศึกหนักในนัดนี้

Advertisement

นาทีถัดมา อังกฤษนำห่าง 2-0 จนได้เมื่อได้ลูกฟรีคิกทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายระยะประมาณ 24 หลา เป็น เบน ชิลเวลล์ ที่รับหน้าที่เปิดบอลลอยโค้งมาเข้าหัว แฮร์รี่ เคน ที่ใช้ความแข็งแกร่งเบียดเอาชนะแข้งทีมเยือนก่อนสะบัดโหม่งระยะเผาขนเข้าไปไม่เหลือซาก

ดูเหมือนว่าอังกฤษจะครองเกมไว้ได้เกือบทั้งหมด นาทีที่ 25 นำห่างออกไปอีกเป็น 3-0 จากลูกเตะมุม โดย เบน ซิลเวลล์ เจ้าเก่าเปิดไปเข้าหัว แฮร์รี่ เคน วิ่งปาดหน้าแผงหลังมอนเตเนโกรเข้าไปโขกเต็มหัวตรงเส้นกรอบประตูพอดิบพอดีเข้าไปไม่เหลือเล่นเอาตาข่ายถึงกับสั่นสะเทือน นับเป็นประตูที่สองของ เคน ในเกมนี้ และเป็นแฮตทริกแอสซิสต์ของ ซิลเวลล์ ในเกมนี้อีกด้วย

สองนาทีต่อมา มอนเตเนโกร น่าได้ประตูตีไข่แตก จากลูกฟรีคิก ซีด ฮาคซาบาโนวิค เปิดบอลเข้าไปกรอบเขตโทษของอังกฤษ ไปเข้าหัว มาร์โก ซิมิช ที่เติมเกมขึ้นมาโขกเต็มๆ บอลทำท่าจะพุ่งเสียบมุมเสาแรกแต่ถูกปฏิเสธสกอร์โดย จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่โชว์บินปัดออกไปได้

Advertisement

นาทีที่ 30 อังกฤษ ได้ประตูนำ 4-0 เมื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เติมเกมขึ้นมาแล้วได้โขกจ่อๆ ไม่ถึง 10 หลาบอลไปตรงตัวและถูก มิลาน มิจาโตวิช เซฟออกมาได้จังหวะแรก แต่โชคไม่ดีบอลกระดอนมาเข้าทาง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ยืนอยู่โล่งๆ เจ้าตัวไม่รอช้าจับบอลแล้วกดเต็มข้อบอลพุ่งดุจจรวดเสียบเสาไกลเข้าไปสุดบรรยาย

สิงโตคำราม ยังคงไม่ผ่อนเกมและโหมบุกอย่างหนักต่อเนื่อง นาทีที่ 37 ออกนำขาด 5-0 จากการเปิดบอลสุดคมของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทางฝั่งขวาบอลลอยโด่งแล้วมุดลงไปถึง แฮร์รี่ เคน ใช้หน้าเท้าจับบอลลงแล้วหมุมตัวซัดทันทีด้วยระยะที่ไม่ถึง 8 หลาหมดปัญญาที่ มิจาโตวิช จะป้องกันได้

นาทีที่ 40 มอนเตเนโกร โต้กลับและได้ลุ้นทวงประตูเมื่อ ฟาตอส เบกิไร หลุดเดี่ยวเข้าไปดีดบอลด้วยข้างเท้าด้านขวาหวังหนีมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด แต่ด้วย พิคฟอร์ด ออกมาปิดมุมดีทำให้ปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 42 อังกฤษ หวิดได้ประตูอีกครั้งจากความสามารถเฉพาะตัวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ใช้ความเร็วกระชากบอลจากฝั่งซ้ายตัดเข้าไปทำชิ่งกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แล้วรับบอลมาอีกครั้งก่อนตัดสินใจซัดด้วยเท้าขวาหักข้อแต่บอลไปถูกแข้งทีมเยือนออกหลังไป

จบครึ่งแรก อังกฤษ เหนือกว่าทุกด้านนำห่าง มอนเตรเนโกร 5-0

ครึ่งเวลาหลัง มาถึงนาทีที่ 55 ทีมชาติอังกฤษส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่าย มอนเตเนโกร จากจังหวะเติมเกมขึ้นไปเปิดบอลทางฝั่งขวาของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เลยไปถึงจุดนัดพบเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ซัดเต็มๆ แต่บอลไปติด

แข้งมอนเตเนโกรเปลี่ยนทางเลยไปถึง เมสัน เมาน์ท แปเข้าไปจ่อๆ แต่ลูกนี้มีสัญญานจากผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้า

นาทีต่อมา อังกฤษ เปลี่ยนตัวคนแรกโดยถอด อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ออกและส่ง เจมส์ แมดดิสัน ลงมาเล่นแทน

นาทีที่ 57 อังกฤษ ตัดสินใจให้ แฮร์รี่ เคน ออกมาพักโดยส่ง แทมมี่ อบราฮัม ลงไปเล่นแทน โดยเกมนี้ เคน กดไปถึงสามประตู

อังกฤษได้ประตูนำ 6-0 นาทีที่ 66 จากจังหวะใช้ความเร็วกระชากไปสุดริมเส้นฝั่งซ้ายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก่อนพลิกตัวเปิดบอลมาถึง จาดอน ซานโช ที่พยายามโหม่งจ่อๆ แต่ดันไปโดนตัวกระดอนย้อนมาเข้าทาง เมสัน เมาน์ท วิ่งเข้ามาหวังหวดเต้มข้อแต่โดนไม่ดีบอลเปลี่ยนทำท่าจะหลุดออกเสาไกลแต่ดันไปโดนขา อเล็กซานดาร์ โซฟาร์นัค กองหลังมอนเตเนโกรอย่างจังส่งผลให้บอลเปลี่ยนทางอีกครั้งเข้าประตูไป

นาทีที่ 84 ทัพสิงโตคำรามผลิตประตูนำขาด 7-0 จาดอน ซานโช หลุดขึ้นไปเปิดบอลสุดเส้นหลังทางฝั่งซ้ายเลยมาถึง แทมมี่ อบราฮัม ล้มตัวแปบอลจ่อๆ เข้าไปตุงตาข่าย

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มจบเกม อังกฤษ ถล่ม มอนเตเนโกร 7-0 คว้าสามแต้มเต็มพร้อมกับผ่านเข้าไปอวดแข้งในรอบ 24 ทีมสุดท้ายปีหน้าเรียบร้อยแล้ว

 

ส่วนผลคู่อื่น

 

เช็ก ชนะ โคโซโว 2-1

โปรตุเกส ชนะ ลิทัวเนีย 6-0

เซอร์เบีย ชนะ ลักเซมเบิร์ก 3-2

ตุรกี ชนะ ไอซ์แลนด์ 0-0

อัลเบเนีย เสมอ อันดอร์ร่า 2-2

ฝรั่งเศส ชนะ มอลโดว่า 2-1

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image