การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ดึกประจำค่ำคืนวันที่ 7 ธันวาคม เป็นเกมเตะนัดซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ และเป็นศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ เจ้าบ้าน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าปีที่แล้ว ของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า เปิดบ้านเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ซึ่งปีศาจแดงเพิ่งจะเปิดบ้านเชือด สเปอร์ส 2-1 มาในนัดก่อน
เจ้าถิ่นจัดทัพใหญ่ ควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ เอร์นานเดซ, ดาบิด ซิลบา, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ส่วนทีมเยือน จัดทัพนำโดย สกอตต์ แม็กโตมิเนย์, เฟร็ด, แดเนี่ยล เจมส์, เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
แมนฯ ซิตี้ เริ่มเกมครองบอลตามสไตล์ พับสนามบุกใส่ปีศาจแดงที่วางหมากมาเล่นเกมรับแล้วรอสวนกลับเร็ว
ผ่าน 15 นาทีแรก แมนฯ ยู เริ่มตั้งเกมได้ มีโอกาสตอบโต้แมนฯ ซิตี้ จากการสวนกลับหลายจังหวะและมีการซัดตรงกรอบหลายครั้ง กระทั่งนาทีที่ 23 แมนฯ ยู ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลากแหวกกองหลังแมนฯ ซิตี้ แล้วไปโดน แบร์นาร์โด้ ซิลวา เหยียดขาสกัดจนล้มลงในเขตโทษ และวีเออาร์เช็กแล้วยืนยันให้เป็นจุดโทษของยูไนเต็ด แรชฟอร์ด ซัดเข้าไปไม่เหลือให้แมนฯยู บุกมานำก่อน 1-0
จากนั้นอีกแค่ 6 นาที แมนฯ ยู มาได้ประตูออกนำห่าง 2-0 จากการซัดมุมแคบเข้าไปของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จบครึ่งแรกแมนฯ ยู เซอร์ไพรส์บุกมานำเรือใบสีฟ้า 2-0
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ โหมบุกแบบเต็มตัว ขณะที่แมนฯ ยู เน้นเกมรับแบบเต็มตัวเช่นกัน โดยแมนฯ ซิตี้ มาทวงประตูคืนตีไข่แตกนาทีที่ 85 จากการโหม่งของ นิโคลัส โอตาเมนดี้ ที่เปลี่ยนลงมาเป็นสำรอง แต่ไม่ทันสุดท้ายแมนฯ ยูไนเต็ด หักปากกาเซียนทั่วโลกบุกมาดับซ่า แมนฯ ซิตี้ 2-1
แมนฯ ยู เก็บเพิ่ม 3 แต้ม เตะ 16 นัด มี 24 แต้มพุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 5 ส่วนแมนฯ ซิตี้ 16 นัด มี 32 แต้ม อยู่อันดับ 3
