นายสันติ ป่าหวาย อธิบดีกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กลุ่มนันทนาการสัมพันธ์ สำนักนันทนาการ กรมพลศึกษา เปลี่ยนชื่อแผนงานจากเดิมแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) เป็นแผนปฏิบัติการด้านนันทนาการ ระยะที่ 3 (พ. ศ. 2563 – 2565) โดยมีการปรับปรุง ปรับเปลี่ยน แก้ไขเพิ่มเติม รายยุทธศาสตร์ และตัวชี้วัดต่างๆ โดยเป้าประสงค์ใหญ่ของแผนงานดังกล่าวคือ การทำให้คนไทยมีนันทนาการเป็นวิถีชีวิต สำหรับเรื่องของพันธกิจที่รับผิดชอบนั้น คือการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงคุณค่าของนันทนาการตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมจนเป็นวิถีชีวิต พัฒนาการจัดการทรัพยากรนันทนาการและการบริหารจัดการนันทนาการ ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการองค์ความรู้ การวิจัย นวัตกรรมนันทนาการ และการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมด้วยนันทนาการ
นายสันติกล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนการดำเนินการเพื่อไปสู่ความสำเร็จนั้น จะแบ่งออกเป็น 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมประชาชนให้เห็นคุณค่าของการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการเป็นวิถีชีวิต / ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาการจัดการทรัพยากรนันทนาการ / ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาองค์ความรู้ การวิจัย และนวัตกรรมนันทนาการสู่การเผยแพร่และการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย / ยุทธศาสตร์ที่ 4 การบริหารจัดการนันทนาการ และการขับเคลื่อนการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม / ยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนานันทนาการเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ และสังคม
“ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น กรมพลศึกษาต้องการที่จะเห็นประชาชนประกอบกิจกรรมนันทนาการจนเป็นวิถีชีวิตร้อยละ 40 ภายในปี 2565 อีกทั้งยังต้องมีบุคลากรด้านนันทนาการมีคุณภาพและมาตรฐานเพิ่มขึ้น สุดท้ายคือ ค่าเฉลี่ยดัชนีความสุขของประชาชนในการเข้าร่วมหรือประกอบกิจกรรมนันทนาการไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ซึ่งหากเราสามารถเดินไปตามแผนงานที่วางไว้ได้นั้น ผมเชื่อมั่นว่าจะเราจะทำได้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน” อธิบดีกรมพลศึกษากล่าว
