“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ร่วมกับ จ.เชียงราย จัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2563 สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 17-19 ม.ค. ที่ตำบลท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย พร้อมด้วยกิจกรรมขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กับ สมาคมกีฬาจักรยานฯ และเทศบาลตำบลท่าข้าวเปลือก
พล.อ.เดชา กล่าวว่า สำหรับกิจกรรม “ปั่นเพื่อสุขภาพ” จะมีขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันศุกร์ที่ 17 ม.ค. ที่บริเวณดอยม่อนกระถาง ระยะทาง 10.68 กม. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายด้วยการขี่จักรยาน เป็นการสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ อีกทั้งเป็นการลดการใช้พลังงาน ลดภาวะโลกร้อน และเป็นการเดินทางที่สะดวก ประหยัด ล่าสุด ได้รับรายงานจาก นายสุทิน กับปะหะ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าวเปลือก ว่ายอดผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีจำนวนเกือบ 4,000 คน โดยเปิดให้นักปั่นลงทะเบียนเวลา 05.00 น. สำหรับพิธีเปิด ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้เกียรติมาเป็นประธาน เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. หลังยืนเคารพธงชาติแล้ว ประธานจะลงนามถวายพระพรแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อจากนั้นขอเชิญผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนร้องเพลง “สดุดีจอมราชา” ร่วมกัน
“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้จัดกิจกรรมเปิดคลินิกรับซ่อมจักรยานฟรี โดยเปิดให้ประชาชนนำจักรยานเก่ามาซ่อมแซมให้ใช้งานได้อีกครั้ง เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายตาม “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และยังมีกิจกรรมประกวดรถจักรยานที่มีความสวยงามตกแต่งแบบประหยัด รวมทั้งการประกวดรถจักรยานเก่าโบราณ และมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ขี่จักรยาน “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ที่มีอายุมากที่สุด กับอายุน้อยที่สุด อีกด้วย
หลังจากนั้น จะเป็นการแข่งขันจักรยานถนน ไทม์ไทรอัล เริ่มสตาร์ทและเข้าเส้นชัยบริเวณหน้าดอยม่อนกระถาง ไปตามทางหลวงชนบทหมายเลข 1063 ระยะทางไป-กลับรอบละ 10 กม. โดยรุ่นทั่วไปชาย, รุ่นทั่วไปหญิง, รุ่นเยาวชนชาย, รุ่น 30-39 ปีชาย, รุ่น 40-49 ปีชาย ปั่น 3 รอบ ระยะทาง 30 กม. ส่วนรุ่นเยาวชนหญิง, รุ่นยุวชนชาย, รุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไปชาย ปั่น 1 รอบ ระยะทาง 10 กม. ซึ่งจะเริ่มปล่อยตัวนักกีฬาตั้งแต่เวลา 09.00 น.
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. แข่งขันจักรยานถนน โร้ดเรซ จุดสตาร์ทและเส้นชัย บริเวณหน้าดอยม่อนกระถาง ไปบนทางหลวงชนบทหมายเลข 1063 และหมายเลข 1004 ระยะทางรอบละ 7.1 กม. เริ่มปล่อยตัวนักกีฬา เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป มีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เวลา 08.00-10.00 น.
ส่วนวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. แข่งขันจักรยานเสือภูเขา ครอสคันทรี่ ที่บริเวณดอยม่อนกระถาง คลาส A ระยะทางรอบละ 4.82 กม., คลาส B ระยะทางรอบละ 4.57 กม. และคลาส C ระยะทางรอบละ 3.18 กม. เริ่มเวลา 09.00 น. ส่วนการแข่งขันจักรยานเสือภูเขา ดาวน์ฮิล ที่วัดหมื่นพุทธ เส้นทางแข่งขันยาวประมาณ 1.5 กม. เริ่มรอบคัดเลือกเวลา 09.00 น. และรอบชิงชนะเลิศเวลา 14.00 น.
ด้าน นายสุทิน กับปะหะ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าวเปลือก เปิดเผยว่า ตอนนี้มีความพร้อมทุกด้านแล้ว ทั้งเรื่องการวางแผนด้านจราจร การรักษาความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม และนักกีฬาที่ลงแข่งขันในแต่ละวัน รวมทั้งด้านอื่น ๆ ก็เตรียมแผนเอาไว้หมดแล้ว สำหรับยอดผู้เข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อสุขภาพ” ล่าสุด คาดว่าจะมีมากถึง 4,000 คน เฉพาะแค่ในอำเภอแม่จัน ซึ่งมี 11 ตำบล ก็มียอดสูงถึง 3,400 คน ยังไม่รวมกับอำเภออื่น ๆ อีก นับว่าเป็นยอดที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ เทศบาลตำบลท่าข้าวเปลือก ได้จัดกิจกรรมมา
ทั้งนี้ นักกีฬาที่จะสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานถนนประเภทโร้ดเรซ สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ หรือสมัครที่หน้างานได้จนถึงเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. สำหรับเสือภูเขา ทั้งครอสคันทรี่ และดาวน์ฮิล สมัครผ่านเว็บไซต์ หรือสมัครที่หน้างานได้จนถึงเวลา 08.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. สำหรับนักกีฬาที่สมัครในประเภทแข่งขัน จะต้องทำบัตรอนุญาตแข่งขัน (License) ประจำปี 2563 ให้เรียบร้อย ส่วนประเภทท่องเที่ยว หากมีความประสงค์จะทำบัตรก็สามารถทำได้เช่นกัน (ไม่บังคับ) โดยเข้าไปลงทะเบียนทำบัตรได้ที่ www.thaicycling.or.th/regislicense/index หรือติดต่อเจ้าหน้าที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่บริเวณสนามแข่งขัน
อนึ่ง เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลท่าข้าวเปลือก จ.อ.เสรี เรืองศิริ ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยวิทยากรจากสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เป็นผู้บรรยาย การอบรมผู้ช่วยผู้ตัดสินในกิจกรรมจักรยานเพื่อสุขภาพ “ปั่นเพื่อสุขภาพ” เพื่อให้มีการปั่นอย่างถูกวิธีและปลอดภัย เช่น การเลือกจักรยานให้เหมาะสม, ความปลอดภัยในการปั่น, การใช้สัญญาณมือ, การฝึกซ้อม และการเตรียมพร้อมร่างกายในวันปั่น
