เกรียนเขียนบอล : แข้งจตุรเทพไทยลุยเจลีก

นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่มีนักเตะไทยบุกค้าแข้งในศึกเจ 1 ลีก ของประเทศญี่ปุ่น ได้มากที่สุดถึง 4 คนในการแข่งขันฤดูกาล 2020 ที่กำลังจะถึงมานี้ หลังจากที่ “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายด่านทีมชาติไทยจากสโมสร โอเอช ลูเวิน ย้ายไปเล่นกับสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ด้วยสัญญายืมตัว 2 ปี

กวินทร์ จะมีโอกาสผนึกกำลังกับเพื่อนเก่า “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะจอมพลิ้วทีมชาติไทย ที่ค้าแข้งในลีกแดนซามูไรเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ขณะที่ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าจอมเก๋าวัย 31 ปี ได้กลับไปเล่นเจลีกอีกครั้งกับสโมสร ชิมิสุ เอส-พัลส์ และ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน เตรียมป้องกันแชมป์กับสโมสร โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส

4 พี่น้องแข้งไทยนำโดย “มุ้ย-อุ้ม-ตอง-เจ” จะมีโอกาสคืนสู่เหย้าอีกครั้งหลังจากทั้ง 4 คนนี้เคยค้าแข้งร่วมกันกับสโมสร “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยุครุ่งเรืองชุดประกาศศักดาครองแชมป์ในเมืองไทย แต่ครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์ใหม่กับการที่ 4 คนแยกย้ายไปเล่นกับ 3 ทีม และต้องพิสูจน์ฝีเท้าในลีกชั้นนำเอเชียอย่างเจ 1 ลีก

ภารกิจการพิสูจน์ฝีเท้าของแต่ละคนแตกต่างกันไปตามสโมสร โดยที่คนที่เป้าหมายใหญ่ที่สุดคงจะหนีไม่พ้น “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน กับการพาทีม โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดให้ได้อีกสมัย หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมา “เจ้าอุ้ม” เค้นฟอร์มแกร่งจนมีส่วนพาทีมครองแชมป์ครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 15 ปี

Advertisement

ขณะที่ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ วางเป้าหมายในการเล่นเจลีกปีที่ 4 ด้วยการวางเป้าหมายพา คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทำอันดับติดพื้นที่โควต้าลุยศึกเอเชียรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้ ส่วน “ตอง” **กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ได้รับโอกาสในการกู้ชื่อนายด่านเบอร์หนึ่งของไทยกลับมาอีกครั้งในเวทีลีกสูงสุดของญี่ปุ่น

ด้าน “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ในวัย 31 ปี แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ และเต็มที่ด้วยความมุ่งมั่นในการกลับมาพิสูจน์ฝีเท้าในเจลีกอีกครั้งกับสโมสร ชิมิสุ เอส-พัลส์ หลังจากเคยมาค้าแข้งรอบแรกแล้วกับสโมสร ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า และสามารถทำผลงานได้ดี แต่ตัวเขาเชื่อมั่นในตัวเองว่ายังจะสามารถทำผลงานได้ดีกว่าเดิมแน่นอน

ศึกเจ 1 ลีก ฤดูกาล 2020 ถือเป็นปีที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก เพราะมี 4 แข้งจตุรเทพไทยบุกไปค้าแข้งมากที่สุดในประวัตศาสตร์ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า มาตรฐานนักเตะในยุคปัจจุบันนี้สามารถก้าวไปถึงในระดับลีกชั้นนำของเอเชียอย่างลีกญี่ปุ่นได้แล้ว และเป็นสัญญาณดีต่อการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในภาพรวม

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image