เงินทุนจากตะวันออกกลาง ยาวิเศษปลุก ‘สาลิกาดง’ จากการหลับใหล

เงินทุนจากตะวันออกกลาง ยาวิเศษปลุก ‘สาลิกาดง’ จากการหลับใหล

“สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กำลังจะกลายเป็นสโมสรในอังกฤษสโมสรล่าสุดที่ถูกซื้อโดยกลุ่มทุนจากตะวันออกกลางต่อจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

นิวคาสเซิลอยู่ในมือของ ไมก์ แอชลีย์ เศรษฐีชาวอังกฤษมา 13 ปีแต่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยนอกจากนั้นยังร่วงตกชั้นไปถึง 2 หนทำให้ทูนอาร์มี่เริ่มมีความหวังกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

ว่าที่เจ้าของใหม่คือกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย ซาอุดีอาระเบีย พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ ที่มีเจ้าชาย โมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย บริหารอยู่นั่นเอง ซึ่งเจ้าชายบิน ซัลมาน มีข่าวว่าจะทุ่มเงินซื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาก่อนหน้านี้แต่ก็ไม่มีความใกล้เคียงที่จะเกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิลที่มูลค่า 300 ล้านปอนด์ (12,000 ล้านบาท) ราคาน้อยกว่าเงินที่จะไปซื้อแมนฯยูถึง 10 เท่า และแอชลีย์ก็พร้อมจะขายมานานแล้ว ทำให้การเจรจาครั้งนี้ไม่ยากเย็นอะไร

Advertisement

อมันด้า สเตฟลีย์ นักบัญชีสาวที่เข้าไปทำงานเกี่ยวกับเรื่องการเงินในตะวันออกกลางมาเป็นสิบปี คือ ฟันเฟืองหนึ่งในการจัดการปิดดีลนี้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

รู้จักอมันด้า สเตฟลีย์

นักธุรกิจสาวใหญ่วัย 47 ปีที่มีรายได้จากการเป็นนายหน้าในเรื่องการซื้อขายสโมสร 115 ล้านปอนด์ในช่วงที่ผ่านมาเคยเดตกับ เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก มาแล้วและเธอนี่เองที่เป็นคนกลางในการจัดการซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ของ ชีกมานซูร์ เมื่อปี 2008

ที่สำคัญสเตฟลีย์บอกว่าเธอเป็นนิวคาสเซิลซะด้วย

ใครจะเป็นผู้ถือหุ้นบ้าง?

สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่จะเป็นซาอุดีอาระเบีย พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ ที่ 80 เปอร์เซ็นต์อีก 10 เปอร์เซ็นต์เป็นของสเตฟลีย์และ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นของพี่น้องรูเบนนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชาวอังกฤษ

ก่อนหน้านี้สเตฟลีย์เคยมีความพยายามจะซื้อนิวคาสเซิลมาแล้วเมื่อปี 2017 และโดนปฏิเสธถึง 3 ครั้งแถมยังโดนแอชลีย์จวกว่า “เสียเวลาที่ต้องไปเจรจาด้วย”

แต่อีกไม่กี่วันหลังจากนี้สเตฟลีย์จะเป็นหนึ่งในผู้บริหารสโมสรที่เธอเชียร์อยู่และไม่มีไมก์ แอชลีย์ อยู่ตรงนั้นแล้ว

กลุ่มทุนซาอุฯรวยขนาดไหน?

ซาอุดีอาระเบียพับลิคอินเวสต์เมนต์ฟันด์พยายามที่จะก้าวไปเป็นกลุ่มที่มีเงินในการลงทุนมากที่สุดในโลกจากการรายงานล่าสุดมีเงินหมุนเวียนอยู่ที่ 320,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,040 ล้านล้านบาท) และเจ้าชายบิน ซัลมานต้องการปรับโฉมเศรษฐกิจของประเทศขึ้นมาใหม่ด้วยโปรเจ็กต์ “วิชั่น 2030”

ที่ผ่านมาการเดินหน้าของวิชั่น 2030 เริ่มต้นจากการให้ซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกมากมายทั้งมวย, กอล์ฟ, เทนนิส, ยกน้ำหนัก, ฟุตบอลและจะมีฟอร์มูล่าวันมาแข่งขันในปี 2023

นอกจากธุรกิจกีฬาแล้วกลุ่มทุนนี้ยังมีหุ้นในอูเบอร์, เทสล่าแอนด์เจเนรัลอีเลคทริคมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  และมีแผนสร้างเมืองใหม่ริมทะเลแดงที่มูลค่ากว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(1,625 ล้านล้านบาท)

เงินที่เทกโอเวอร์นิวคาสเซิลเป็นเพียงส่วนเล็กๆในโปรเจ็กต์วิชั่น 2030 เท่านั้น

นิวคาสเซิลจะเทียบชั้นแมนฯซิตี้ได้หรือไม่?

เมื่อพูดถึงความร่ำรวยของราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียแล้ว แฟนนิวคาสเซิลต้องฝันถึงการทุ่มทุนมหาศาลในการเนรมิตทีมให้ขยับมาเป็นทีมหัวแถวของพรีเมียร์ลีกอยู่แล้ว การกลับไปเป็นทีมใหญ่เหมือนในยุค 90 เป็นสิ่งที่ทูนอาร์มี่โหยหามานานเหลือเกิน

เกร็ก ทอมลินสัน หนึ่งในบอร์ดแฟนบอลนิวคาสเซิล กล่าวว่า ทุกคนอยากให้สโมสรอยู่จุดที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันไม่ได้หมายความว่าจะต้องได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คงไม่หลอกตัวเองกันขนาดนั้น แต่แฟนบอลอยากจะเชียร์ทีมที่คาดหวังความสุขได้ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นมานานมากแล้ว

การที่สเตฟลีย์เข้าไปมีส่วนช่วยในการเทกโอเวอร์แมนฯซิตี้มาเมื่อ 12 ปีที่แล้ว และชีกมานซูร์ก็ทุ่มทุนมหาศาลในการปรับเปลี่ยนทีมใหม่จนกลายเป็นมหาอำนาจในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว ย่อมทำให้แฟนบอลนิวคาสเซิลหวังให้เป็นไปแบบเดียวกัน

ยิ่งไปกว่านั้นการแสดงความร่ำรวยของมหาเศรษฐีแถบตะวันออกกลางเป็นเหมือนสงครามเย็นเพราะไม่มีใครยอมใคร ซาอุดีอาระเบียมาลงทุนครั้งนี้ย่อมต้องการเขย่าบัลลังก์ของกาตาร์ที่ครองความยิ่งใหญ่ในโลกฟุตบอลในคราบของทีมเรือใบสีฟ้ามาตลอดทศวรรษแล้ว

ความโล่งใจของแฟนบอล

ทอมลินสันบอกอีกว่าตลอด 13 ปีที่แอชลีย์ถือครองสโมสรแห่งนี้แฟนบอลรอคอยว่าเมื่อไรที่เขาจะเดินจากไปสโมสรฟุตบอลก็เหมือนกับสนามเด็กเล่นของเศรษฐี ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันควรเป็นของแฟนบอลหรือชุมชน แต่มันก็เป็นเรื่องในอุดมคติเท่านั้น

แฟนบอลมองว่าแอชลีย์เข้ามาทำลายทีมเพราะการไม่ยอมลงทุนในเรื่องการซื้อนักเตะดีๆ มาเสริมทัพ ถึงแม้ว่าเขาจะทุ่มเงินซื้อนักเตะเป็นสถิติสโมสร 2 หนใน 3 ตลาดหลังสุดก็ตาม ทั้ง โชเอลินตัน 39.6 ล้านปอนด์และ มิเกล อัลมิรอน 21.6 ล้านปอนด์ก็ตาม

แอชลีย์ไม่จ่ายเงินให้พนักงานที่ทำงานในสนามเซ็นต์เจมส์ปาร์กในช่วงที่ฟุตบอลหยุดเตะจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แถมยังมีแนวคิดในการขึ้นค่าตั๋วเกมเหย้าในฤดูกาลหน้าด้วย ทำให้แฟนบอลยิ่งไม่พอใจเขามากไปกว่าเดิม ข่าวการเทกโอเวอร์สโมสรในช่วงวิกฤตแบบนี้ทำให้แฟนบอลใจชื้นกันมากๆ

กำไรของนักธุรกิจในโลกฟุตบอล

การขายสโมสรครั้งนี้แอชลีย์หอบกำไรไปถึง 166 ล้านปอนด์ (6,640 ล้านบาท) หลังจากที่เขาซื้อสโมสรมา 134 ล้านปอนด์เมื่อ 13 ปีที่แล้ว

แอชลีย์พยายามขายสโมสรมาตั้งแต่ปี 2017 ในราคา 300 ล้านปอนด์แต่ก็ยังไม่สามารถปิดดีลกับใครได้ จนมาถึงเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่สเตฟลีย์เข้ามาทุ่มเงินที่น่าจะมากถึง 340 ล้านปอนด์ (13,600 ล้านบาท) เพื่อปลดแอกทีมสาลิกาดงจากเศรษฐีขี้งกในความรู้สึกของทูนอาร์มี่

ในช่วงเวลาที่เอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ การเข้ามาของกลุ่มทุนซาอุดีอาระเบียทำให้แฟนบอลมีความหวังว่าสโมสรจะยังแข็งแรง แม้จะไม่มีแมตช์เตะไปอีกหลายเดือนแล้ว หลังจากที่ผ่านพ้นฤดูกาลนี้ไป นิวคาสเซิลของพวกเขาจะไม่ใช่ทีมหนีตายหรืออยู่กลางตารางอีกต่อไปแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image