รมช.สาธิต วางเป้า 1.5 ล้านคนร่วม ‘ก้าวท้าใจ ซีซั่น 2’ เริ่มออกสตาร์ต 1 ก.ค.นี้

รมช.สาธิต วางเป้า 1.5 ล้านคนร่วม ‘ก้าวท้าใจ ซีซั่น 2’ เริ่มออกสตาร์ต 1 ก.ค.นี้

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ) เปิดเผยว่า หลังจากประสบความสำเร็จกับการจัดกิจกรรม “ก้าวท้าใจ ซีซั่น 1 ซึ่งเป็นการจัดวิ่งแบบ เวอร์ชวล รัน เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายที่ไม่เคยออกกำลังกายหันมาเริ่มออกกำลังกายผ่านแอพพลิเคชั่น ไลน์ Line : @THNVR ด้วยการบันทึกกิจกรรมการออกกำลังกาย 60 วัน 60 กม. ซึ่งเป็นเหมือนการท้าทายให้คนออกมาเล่นกีฬา โดยสร้างแรงกระตุ้นเป็นของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เช่น 5,000 คนแรกจะได้รับเสื้อออกกำลังกายของ ก้าวท้าใจ และเมื่อสิ้นสุดกิจกรรม 15 อันดับแรก ชาย-หญิง จะได้รับรางวัล พิเศษอีก ซึ่งกระแสตอบรับซีซั่นแรกเราเริ่มในกลุ่มบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขก่อน รวมทั้งอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม) ทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 500,000 คน รวมระยะทางสะสม 20 ล้านกิโลเมตร คิดเป็นระยะทางไป-กลับ โลก-ดวงจันทร์ได้ถึง 5 รอบทีเดียว

กระแสตอบรับดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการจัด “ก้าวท้าใจ ซีซั่น 2 ต้านภัยโควิด” ซึ่งครั้งนี้เราเพิ่มกิจกรรมกีฬาเป็น 6 กีฬา ประกอบด้วย วิ่ง, แอโรบิก, เวตเทรนนิ่ง, โยคะ, คีตะมวยไทย และปั่นจักรยาน ภายใต้คำขวัญ “พิชิต 60 วัน 6,000 กิโลแคลอรี” โดยผู้ที่สมัครลงทะเบียนแล้วสามารถเลือกชนิดกีฬาที่จะออกกำลังกาย เช่น ปั่นจักรยานให้ได้ระยะทาง 300 กิโลเมตร, วิ่งให้ได้ระยะทาง 60 กิโลเมตร หรือจะออกกำลังกายครบทั้ง 6 ชนิดกีฬา (วิ่ง, แอโรบิก, เวตเทรนนิ่ง, โยคะ, คีตะมวยไทย, ปั่นจักรยาน) ให้ได้ 800 นาที เป็นต้น จะเริ่มต้นออกสตาร์ต วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ซึ่งล่าสุดมีตัวเลขผู้เข้าร่วมสูงมาก และคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายคือ 1.5 ล้านคน ซึ่ง ซีซั่น 2 จะมีเพิ่มในส่วนของของรางวัล อาทิ นาฬิกาสมาร์ตวอตช์ 200 รางวัล , เสื้อวิ่ง, กระเป๋า แล้ว เมื่อออกกำลังกายได้ตามหลักเกณฑ์จะได้แต้ม เฮลต์ พอยต์ เป็นแต้มสะสมซึ่งเรากำลังเจรจากับผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬา ที่จะนำแต้มไปเป็นส่วนลดซื้อสินค้า นอกจากนี้จะเจรจากับ บริษัทประกันภัย ในการนำแต้มไปลดเบี้ยประกันด้วยในซีซั่น 3 และซีซั่น 4

“เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของแนวคิดในการจัดกิจกรรมนี้คือการทำให้ประชาชนเจ็บป่วยน้อยลง เพราะเมื่อประชาชนหันมาออกกำลังกายมากขึ้น โอกาสเจ็บป่วยก็น้อยลง ซึ่งจะทำให้งบประมาณในการดูแลผู้ป่วย ที่ใช้ต่อคน 3,800 บาท รวมแล้วกว่า 3-4 แสนล้านบาท ลดลงตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้เราสามารถนำเงินงบประมาณในส่วนนี้ไปพัฒนาส่วนอื่นๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย” ดร.สาธิตกล่าว

 

Advertisement

 

 

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image