คลอดคู่มือปลดล็อกกลับมาแข่ง 14 กีฬาแล้ว ฟุตบอล จำกัดไม่เกิน 250 คนต่อแมตช์ตรวจเชื้อ ‘โควิด’

คลอดคู่มือปลดล็อกกลับมาแข่ง 14 กีฬาแล้ว ฟุตบอล จำกัดไม่เกิน 250 คนต่อแมตช์ตรวจเชื้อ ‘โควิด’

 

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงนามประกาศกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อนุญาตให้ 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ฟุตบอล, จักรยาน, เทนนิส, เจ็ตสกี, รถจักรยานยนต์, กอล์ฟ, มวย, วอลเลย์บอล, แบดมินตัน, ตะกร้อ, บาสเกตบอล, รถยนต์, โบว์ลิ่ง และสนุกเกอร์ กลับมาจัดการแข่งขันแบบไม่มีผู้ชมเข้าชมในสนาม ได้แล้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยได้จัดทำคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมด้านการกีฬาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19 แบบไม่มีผู้ชมในสนามแข่งขันอย่างละเอียดแล้ว และให้ดำเนินการจัดการแข่งขันได้ ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้กำชับให้ทุกชนิดกีฬา จะต้องปฎิบัติตามคู่มือการแข่งขันที่ให้ไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งมาตรการก่อนแข่งขัน ระหว่างแข่งขัน และหลังการแข่งขัน เพื่อความปลอดภัยของทุกคนจากไวรัสโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น นักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง และจากนี้ไปจะมีการประเมินผลในการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ากีฬาใด ไม่ปฎิบัติตามคู่มือการแข่งขันที่ให้ไว้ ศบค. ที่จะทำหน้าที่หลัก และ กกท. หน่วยงานกีฬา ที่จะทำหน้าที่เสริม มีสิทธิ์ที่จะระงับการแข่งขันกีฬานั้น ๆ ได้ตลอดเวลา

สำหรับคู่มือการจัดการแข่งขันทั้ง 14 กีฬาที่ประกาศอย่างเป็นทางการออกมาแล้วนั้น ที่น่าสนใจอยู่ที่กีฬามหาชนอย่าง ฟุตบอล

มีข้อกำหนดต่างๆ ดังนี้ นักกีฬารวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” และแพลตฟอร์ม “สปิริต” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งจะมีการจัดลงทะเบียนทั้งก่อนเข้า และออกบริเวณทางเข้าออกที่จะมีเพียงทางเดียวเท่านั้น ต้องสวมหน้ากากอนามัย ลดการพูดคุย และเดินผ่านจุดวัดอุณหภูมิที่ต้องไม่เกิน 37.5 องศา เพื่อคัดกรองผ่านก่อนเข้าสถานที่รวมถึงจัดสบู่, เจลแอลกอฮอล์ล้างมือล้างมือให้พร้อม

Advertisement

กําหนดให้มีจํานวนผู้อยู่ภายในและโดยรอบสนามแข่งขันไม่เกินกว่า 250 คน หรือปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่ผู้จัดการแข่งขันอาจกําหนดเพิ่มเติม สำหรับนักกีฬาทั้ง 2 ทีม จะต้องมีไม่เกิน 37 คน ส่วนทีมงานสตาฟฟ์โค้ช และเจ้าหน้าที่ทีม มีทีมละ 16 คน ผู้แทนสมาคมฯ หรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ทางคณะผู้ตัดสิน, ผู้ควบคุมการแข่งขันผู้ประเมินผู้ตัดสิน รวม 5 คน

ขณะที่เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดจำกัดไม่เกิน 35 คน บุคลากรด้านการรักษาความปลอดภัย ทั้งหมดไม่เกิน 25 คน บุคลากรด้านการแพทย์ ทั้งหมดไม่เกิน 20 คน เจ้าหน้าที่ด้านถ่ายทอดโทรทัศน์ และสื่ออื่นๆ บุคลากรด้านการถ่ายทอดโทรทัศน์และถ่ายทอดผ่านสื่ออื่น ๆ ทีมงานวิดีทัศน์ช่วยการตัดสิน ทั้งหมดไม่เกิน 30 คน ส่วนสื่อมวลชนจากสํานักข่าวต่างๆ จะต้องไม่เกิน 15 คน และผู้บริหาร และผู้ให้การสนับสนุน สโมสร ทั้งหมดไม่เกิน 10 คน

ในส่วนของอุปกรณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจะต้องทําความสะอาดด้วยน้ำยาทําความสะอาด เช่น แอลกอฮอล์ 70% หรือ โซเดียมไฮโปคลอไรด์ 0.9% ทั้งก่อน และหลัง รวมทั้งซักเสื้อผ้าที่ใช้ในการ ฝึกซ้อมทุกครั้งหลังให้บริการ รวมไปถึงห้องสุขา และพื้นที่ในบริเวณสถานที่อย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง และต้องทําความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ซึ่งหากพบนักกีฬาหรือเจ้าหน้าที่ทีมงานสตาฟฟ์คนใดมีอาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด ให้งดการไปเข้าร่วมกิจกรรมทันที

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image