บอลไทยเฮ ‘ศบค.’ ยอมให้ตรวจโควิด2ครั้ง – ‘สมยศ’ ส่งสัญญาณสโมสรเงินอุดหนุนน้อยลง
หลังจากที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศให้ 14 ชนิดกีฬา กลับมาแข่งขันได้ พร้อมกับออกคู่มือปฏิบัติจัดการแข่งขัน ซึ่งในส่วนของกีฬาฟุตบอล มีข้อกำหนดให้นักกีฬาต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนการแข่งขัน แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดของจำนวนครั้งที่ต้องเข้ารับการตรวจ
ความคืบหน้าเรื่องนี้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ออกคู่มือมาอย่างกว้างๆ แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ และสมาคมฯ ได้รับแจ้งจากการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ว่าได้กำหนดการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อน 72 ชั่วโมงทุกแมตช์ แต่ในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้เลย สมาคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และทำหนังสือถึง กกท., กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ขอทบทวนการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยนำเสนอว่าขอให้มีการตรวจโควิด 1 ครั้งก่อนการแข่งขัน 72 ชั่วโมงที่จะมีขึ้นนัดแรก และก่อนจะมีการแข่งขันในเลก 2 ให้มีการตรวจใน 72 ชั่วโมงอีก 1 ครั้ง นอกจากนี้หากมีความจำเป็นสงสัยว่านักกีฬาหรือผู้เกี่ยวข้องจะติดเชื้อ ก็ให้ตรวจเป็นกรณีๆไป
“ล่าสุด ศบค. ยอมรับข้อเสนอของสมาคมฯ แล้ว ทำให้ตอนนี้คู่มือการแข่งขันได้ข้อสรุปชัดเจน ที่จริงเรื่องนี้ต้องรอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาชี้เป็นผู้แถลง แต่ผมขอเสียมารยาทนำมาเปิดเผยก่อน ทั้งนี้การตรวจโควิดในรูปแบบดังกล่าว จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของสโมสรเป็นอย่างมากด้วย”
นายกลูกหนังไทย กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าทำไมสมาคมฯ ไม่เรียกสโมสรมาคุยเพื่อหาข้อยุติ ขอชี้แจงว่าตนยังไม่ได้คุยกับ ทรูวิชั่นส์ เป็นเรื่องเป็นราว หากนัดประชุมสโมสรแล้วไม่มีคำตอบเรื่องค่าตอบแทน ประชุมไปก็เสียเวลาเปล่า ดังนั้นหากได้ข้อสรุปแล้วจะเชิญสโมสรสมาชิกมารับฟัง ว่า ทรู จะมีแนวทางปฏิบัติเป็นอย่างไร ให้ค่าตอบแทนเท่าไหร่ สโมสรรับได้หรือไม่ ถึงตอนนั้นหากสโมสรต้องการให้เตะเร็วขึ้น และเตะให้จบธันวาคมก็ต้องยินยอมพร้อมใจด้วยว่า จะต้องเตะ เว้น 3 วัน 1 ครั้ง และเตะ เว้น 2 วัน 1 ครั้ง สลับแบบนี้ไป 26 แมตช์
“อย่างไรก็ดีสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) สั่งมาทางสมาคมฯ ด้วยว่า ในการประชุมสโมสรสมาชิก ที่จะมีมติเตะเร็วขึ้น และมีเกมเตะถี่เยอะขึ้น จะต้องเชิญสมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพมาประชุมด้วย หมายความว่านอกจากเสียงสโมสรสมาชิกแล้ว เราต้องรับฟังเสียงนักฟุตบอลด้วย เพราะเขามีส่วนจะต้องได้รับผลกระทบจากเกมเตะถี่ขึ้น”
ส่วนการส่งจดหมายดังกล่าวถึงสโมสรสมาชิก นายกสมาคมฯ กล่าวว่า เนื่องจากมีสิ่งบอกเหตุว่า ทรู คงจะขอลดค่าตอบแทนในการถ่ายทอดสด แต่ส่วนตัวยังไม่ทราบว่า ทรู จะลดค่าตอบหรือไม่อย่างไร แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ต้องส่งสัญญาณถึงสโมสรสมาชิกว่าค่าเงินตอบแทนไปยังสโมสรต่างๆ ถ้าน้อยหรือไม่เหมือนเดิม จะนำทีมเข้าร่วมการแข่งขันต่างๆหรือไม่ อันนี้เป็นการส่งสัญญาณให้ผู้บริหารสโมสรได้ประเมินสถานการณ์ และเตรียมพร้อมรับมือสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้น
“ไม่ได้ต้องการสร้างความตระหนกตกใจ เพียงแต่ถ้าทำอะไรเราต้องบอกแต่เนิ่นๆ ไม่เช่นนั้นเราจะถูกตำหนิว่าทำไมไม่บอก ไม่ส่งสัญญาณมาตั้งแต่ต้น ดังนั้น ตอนนี้ตนได้บอกแล้วว่ามีโอกาสที่จะได้รับเงินสนับสนุนน้อยลงกว่าเดิม สโมสรต้องไปประเมินสถานการณ์ ปรับแผนค่าใช้จ่ายในสโมสร เพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นให้ได้” บิ๊กอ๊อดกล่าว
