40 ผู้บริหารสมาคมกีฬาผ่านหลักสูตรอบรม กกท.-สถาบันพระปกเกล้า

40 ผู้บริหารสมาคมกีฬาผ่านหลักสูตรอบรม กกท.-สถาบันพระปกเกล้า

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารออาชีพทางการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ได้เข้าร่วมอบรมเป็นวันสุดท้ายโดยทางสถาบันพระปกเกล้าได้ให้มีการจัดพรีเซนต์กลุ่มงานออกเป็น 5 กลุ่ม โดยได้เชิญอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามารับฟังการพรีเซนต์กลุ่มงานของแต่ละกลุ่มว่าเป็นอย่างไร และต้องมีการใส่ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้าง กลุ่มที่ 1 ได้ทำเรื่องของสปอร์ตทัวร์ริซึ่มของจังหวัดพังงา เพื่อพัฒนาเป็นเมืองสปอร์ตซิตี้ที่ยั่งยืนโดยต้องมีสโคปของอีเว้นท์กีฬาที่แน่ชัด กบุ่มที่ 2 ทำเรื่องมิติของสมาคมกีฬาที่มีบทบาทต่องสังคม อย่างว่ายน้ำจัดโครงการสอนช่วยเหลือคนจมน้ำ และทางยูยิตสูก็ให้ความรู้กับการป้องกันตัวของบรรดาพยาบาล หมอนายแพทย์ หรือผู้ช่วยพยาบาล ในกรณีที่มีคนเข้ามาสร้างเหตุการณ์ไม่ดีภายในโรงพยาบาล กลุ่ม 3 เสนอเรื่องของการล็อคสกอร์ผลการแข่งขันกีฬาเป็นมะเร็งร้ายที่ทำให้วงการกีฬาในเมืองไทยตกต่ำอย่างฟุตบอล บาสเกตบอล หรือแม้กระทั่งกีฬาคนพิการก็ยังมี

กลุ่ม 4 ทำเรื่องบริบททีวีกีฬาเพื่อการพัฒนาวงการกีฬาไทย โดยเฉพาะทีวีกีฬาทีสปอร์ต ชาแนล ที่สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดยังเข้าไม่ถึง การเข้ามามีส่วนร่วมน้อยมาก และทิศทางการพัฒนาทีวีกีฬาอย่างยั่งยืน กลุ่มสุดท้าย เสนอปัญหาอุปสรรคของการเป็นเจ้าภาพกีฬาระดับนานาขาติ จนทำใก้เกิดปัญหาตามมาหลังจากจบการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ปัญหาทางด้านการเงินของประเทศนั้นๆมีปัญหา โดยสรุปคณาจารย์ทุกท่านชื่นชมในสิ่งที่ผู้เข้าร่วมอบรมพรีเซนต์

ช่วงบ่ายเป็นการปิดหลักสูตร นายณัฐพงศ์ รอดมี ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารออาชีพทางการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทย และสถาบันพระปกเกล้า มีวัตถุประสค์เพื่อเพิ่มขีดสมรรถนะของบุคลากรทางการกีฬาของชาติและมุ่งมั่นพัฒนทักษะในกรบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ให้แก่ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานของสมาคมและพัฒนาวงการกีฬาของประเทศ ให้มีความทัดเทียมนานาประเทศ นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเป็นเวทีของการประสานสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้เข้ารับอบรม เพื่อการร่วมมือในการพัฒนาวงการกีฬาของชาติในวงกว้างต่อไป

Advertisement

สำหรับรุ่นที่ 4 มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 40 คน ประกอบด้วยผู้บริหารจากสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยจำนวน 20 คน และผู้บริหารจากสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด จำนวน 20 คน ซึ่งกำหนดให้มีการอบรม ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา และเพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์เชิงประจักษ์ ได้กำหนดให้มีการศึกษาดูงาน (ซึ่งจัดกิจกรรมโดย กกท.) ณ จังหวัดลพบุรี สระบุรี และจังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 14 – 18 กันยายนที่ผ่านมา รวมทั้งการจัดทำเอกสารวิชาการกลุ่มและนำเสนอเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมารวมเวลาการศึกษาอบรมในหลักสูตรทั้งสิ้น 86 ชั่วโมง

สำหรับผู้ผ่านการศึกษาอบรมและมีสิทธิที่จะได้รับใบรับรองของสถาบันจะต้องมีเวลาศึกษาอบรมครบตามหลักกณฑ์ที่สถาบันกำหนด คือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 และไม่ดำเนินการใด ๆ อันนำมาซึ่งความเสื่อมเสียชื่อเสียงของสถาบันพระปกเกล้าและการกีฬาแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ จากเงื่อนไขที่กำหนดพบว่า ผู้เข้ารับการอบรมได้ผ่านเงื่อนไขตามที่หลักสูตรกำหนด จำนวน 40 คน ในโอกาสนี้ ผมใคร่ขอเรียนเชิญท่านเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองให้แก่ผู้ผ่านการศึกษาอบรมกล่าวแสดงความยินดี และกล่าวปิดการศึกษาอบรมตามลำดับต่อไป

Advertisement

ทางศาสตรจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า การกีฬามีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ การกีฬาต้องพัฒนาไปไกลและการกีฬาต้องยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลง อย่างฟุตบอลสมัยนี้หันมาใช้วีเออาร์หลายคู่ ที่ต้องใช้เพราะเป็นเรื่องของธรรมาภิบาลเพื่อใม่ให้เกิดปัญหาคางแคลงใจในการตัดสิน สุดท้ายนี้ก็หวังว่าผู้บริหารสมาคมกีฬาทุกท่านจะใช้หลักธรรมาภิบาลบริหารงานกีฬาของประเทศให้ไปสู่จุดมุ่งหมายความสำเร็จต่อไป พร้อมกับขอแสดงความยินดีที่ทุกท่านได้จบหลักสูตรนี้ครบ 40 คนตามเป้าหมายของการกีฬาแห่งประเทศไทยที่ได้มีการจัดอบรมขึ้นเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image