แฟนกีฬาโหวตอยากให้ กกท.ส่งเสริมนักกีฬาสู่สากล – ยกระดับศูนย์กีฬาหัวหมากสู่ ‘เนชั่นแนล สปอร์ตปาร์ค’

แฟนกีฬาโหวตอยากให้ กกท.ส่งเสริมนักกีฬาสู่สากล – ยกระดับศูนย์กีฬาหัวหมากสู่ ‘เนชั่นแนล สปอร์ตปาร์ค’

 

เนื่องในโอกาสที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มีอายุครบรอบปีที่ 56 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมาและกำลังจะก้าวย่างสู่ปีที่ 57 นั้น KBU SPORT POLLโดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตจึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง “กกท.กับการกกท.กับการขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาชาติ ในมุมมองของประชาชน”เพื่อสะท้อนความคิดเห็นในมิติต่างๆเกี่ยวกับารบริหารจัดการและการขับเคลื่อนการพัฒนาการพัฒนาการกีฬาของประเทศ

สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์และภาคสนามระหว่างวันที่ 19-21 ตุลาคม 2563โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่สนใจและติดตามข่าวสารทางการกีฬาซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,374 คนโดยแบ่งเป็นเพศชาย 798 คนคิดเป็นร้อยละ58.08 เพศหญิง 576 คนคิดเป็นร้อยละ41.92 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆโดยภาพรวมพบว่า

การติดตามผลงานและข่าวสารเกี่ยวกับการบริหารจัดการ ส่วนใหญ่ร้อยละ 78.55 ติดตามอย่างสม่ำเสมอ รองลงมาร้อยละ 13.09 ติดตามเป็นครั้งคราว และร้อยละ 8.36ไม่ได้ติดตาม

Advertisement

สื่อหรือช่องทางในการติดตาม ส่วนใหญ่ร้อยละ 38.14 โซเชียลมีเดีย รองลงมาร้อยละ 21.77 หนังสือพิมพ์ ร้อยละ 17.99 วิทยุกระจายเสียง ร้อยละ14.83 โทรทัศน์ และอื่นๆร้อยละ 7.27

ความพึงพอใจต่อการบริหารจัดการและการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนากีฬาชาติ ใหญ่ร้อยละ31.28 พึงพอใจในระดับมาก รองลงมาร้อยละ26.11 พึงพอใจในระดับปานกลาง ร้อยละ23.94 พึงพอใจในระดับมากที่สุด ร้อยละ14.63 พึงพอใจในระดับน้อย และร้อยละ 4.04 พึงพอใจในระดับน้อยที่สุด

ผลงานหรือนโยบายที่เข้าตาประชาชน ส่วนใหญ่ร้อยละ 22.71 การส่งเสริมและสนับสนุนการเตรียมการนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ รองลงมาร้อยละ 20.03 การส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมและการจัดการแข่งขันกีฬาภายในประเทศ ร้อยละ 17.54 การพัฒนาและยกระดับสมรรถนะการบริหารจัดการองค์กร ร้อยละ 14.42 ส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาอาชีพให้เป็นที่ยอมรับได้มาตรฐานสากล ร้อยละ 12.88 การส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ร้อยละ 9.62 การพัฒนาและยกระดับศูนย์ฝึกกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬา และอื่นๆร้อยละ 2.80

Advertisement

นโยบายเร่งด่วนสำหรับการพัฒนากีฬาชาติ ส่วนใหญ่ร้อยละ 24.88 การพัฒนาและยกระดับการกีฬาชาติสู่มาตรฐานสากล รองลงมาร้อยละ 22.99 การพัฒนาและยกระดับศูนย์กีฬาหัวหมากสู่การเป็น “เนชั่นแนล สปอร์ตปาร์ค” ร้อยละ 21.15 การพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการองค์กรสู่มาตรฐานสากล ร้อยละ17.57 การพัฒนาและยกระดับการกีฬาสำหรับการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม ร้อยละ10.38 การเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และอื่นๆร้อยละ3.03

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตในฐานะผู้ดำเนินการKBU SPORT POLL กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจดังกล่าวจะเห็นได้ว่าวันนี้ด้วยความสำคัญของกีฬาที่เป็นหนึ่งในมิติสำหรับการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมจึงทำให้ประชาชนกลุ่มตัวอย่างที่ติดตามและสนใจข่าวสารทางการกีฬาตลอดจนประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจในการติดตามการบริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาชาติของกกท. และที่น่าสนใจจะเห็นได้ว่าในยุคของสังคมข่าวสารและกระแสดิจิทัลสื่อหรือช่องทางสำหรับการติดตามผลงานส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่สื่อโซเชียลมีเดีย

ในขณะเดียวกันถ้ามองในมิติของการบริหารจัดการในฐานะกกท.เป็นองค์กรหลักทางการกีฬาของประเทศที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับการกีฬาให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าประสงค์ตลอดจนแผนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาต ฉบับที่ 6 นั้นต่อกรณีนี้จะเห็นได้ว่าประชาชนที่ติดตามผลงานส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในการบริหารจัดการอยู่ในระดับมาก ในขณะที่ผลงานหรือนโยบายที่เข้าตาจะเทไปที่การส่งเสริมและสนับสนุนการเตรียมการนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ

อย่างไรก็ตามหากมองในมิติของการส่งเสริมและสนับสนุนตลอดจนแนวนโยบายสำหรับการเดินหน้าในการขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาของประเทศกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญ และต้องการให้กกท.พัฒนาและยกระดับมาตรฐานกีฬาสู่สากล ตลอดจนพัฒนาศูนย์กีฬาหัวหมากให้เป็น “เนชั่นแนล สปอร์ตปาร์ค”รวมทั้งใช้กิจกรรมกีฬาเป็นสื่อในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม

และหากมองในมิติของการบริหารจัดการองค์กรจะเห็นได้ว่าในโอกาสที่กกท.กำลังก้าวย่างสู่ปีที่ 57 กลุ่มตัวอย่างยังต้องการให้มีการพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการให้กกท.เป็นองค์กรคุณภาพชั้นนำสู่สากลอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามต่อกรณีนี้หาก กกท.มุ่งหวังที่จะก้าวไปสู่องค์กรคุณภาพชั้นนำทันต่อการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันของโลกในศตวรรษที่ 21ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลนั้น คงจะคาดหวังจากการขับเคลื่อนของผู้ว่าการหรือผู้บริหารในระดับต่างๆ แต่เพียงฝ่ายเดียวคงจะไม่บรรลุเป้าประสงค์ แต่หัวใจสำคัญพนักของงาน กกท.ทุกภาคส่วนและองค์กรที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนตลอดจนรัฐบาลจะต้องมีส่วนร่วมกับการบริหารจัดการด้วยการกีฬาของประเทศจึงจะเดินหน้าไปสู่การพัฒนาที่ครบในทุกมิติอย่างแท้จริง

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image