คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : ประสบการณ์เป็นตัวตัดสิน
พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เราคงไม่ได้เห็นการกวาดแต้มทิ้งห่างเหมือน 2-3 ซีซั่นที่ผ่านมาแล้วแน่ๆ อาจจะเพราะทีมใหญ่ฟอร์มดร็อปลง หรือทีมเล็กพัฒนาขึ้น
สัปดาห์ล่าสุด มี 3 ทีมที่เล่นเก้าอี้ดนตรีแบ่งกันเชยชมตำแหน่งจ่าฝูงกันไป เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นจ่าฝูงไปเมื่อวันเช้าวันเสาร์ และขึ้นนำในตารางลีกสูงสุดของอังกฤษครั้งแรกในรอบ 32 ปี ถัดมาอีกวันกว่าๆ สเปอร์ส ขยับแซงไปลิ้มลองหัวตารางดูบ้าง แต่ชั่วโมงกว่าๆ เลสเตอร์ ก็ทะยานแซงขึ้นไป
ณ เวลานี้ทีมบิ๊ก 6 ของพรีเมียร์ลีก มีเพียง 2 ทีมเท่านั้นที่อยู่ในท็อป 6 ของตาราง ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าอยู่อันดับ 3 เชลซี รั้งอันดับ 5 ถ้านับอันดับ 1-11 แต้มห่างกันเพียง 6 แต้มเท่านั้น
อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูกาล ฟอร์มของแต่ละทีมอาจจะยังไม่ออกคงที่ พร้อมแพ้ชนะกันได้ทุกทีม ลิเวอร์พูลที่ว่าโหดๆ ยังมีหลุดเสมอ หลุดแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีการเสริมทีมหลายจุดก็ยังไม่ดุอย่างที่คิดไว้ อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ่งแล้วใหญ่ ขาดความสม่ำเสมออย่างหนัก
สองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ลงเตะน้อยกว่าชาวบ้าน 1 แมตช์ ถ้าเก็บชัยชนะในนัดตกค้างได้ ก็จะทะยานขึ้นไปสูงขึ้นอีก แต้มที่ตามจ่าฝูงก็ไม่ได้ห่างอะไร
อีกเดือนกว่าๆ ก่อนจะเข้าช่วงบ๊อกซิ่งเดย์ที่เตะกันถี่ยิบ น่าจะได้เห็นว่ามีทีมไหนที่อยู่ในตำแหน่งลุ้นแชมป์บ้าง และหลังจากปีใหม่ไปแล้ว คงชัดขึ้นไปอีก แต่ต้องไม่ลืมว่าช่วงมกราคมเป็นต้นไป ฟุตบอลถ้วยอย่างคาราบาวคัพและเอฟเอคัพ กลับมาให้กรำศึกหนักกันอีก ยิ่งลุ้นแชมป์หลายถ้วย โอกาสที่จะพลาดในบอลลีกก็มีไม่น้อย
ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเรื่องของการใช้นักเตะให้เป็น โรเตชั่นให้เหมาะสม ยิ่งทีมมีผู้เล่นเยอะ ทดแทนกันได้ ความได้เปรียบก็สูงเช่นกัน
ลิเวอร์พูลขาด เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ตั้งแต่ต้นฤดูกาลอาจะทำให้เกมรับไม่แน่นเหมือนเดิม แมนฯซิตี้ที่เต็มไปด้วยนักเตะเจ๋งๆ แต่กลับยังจูนกันไม่ไม่ดีพอ แมนฯยูสามารถจัดทัพที่เหนือกว่าทีมเล็กหรือกลางๆ ได้แบบสบายๆ แต่ผลงานกลับไม่สม่ำเสมอ อาร์เซน่อลที่มีแนวรุกที่น่ากลัว กลับเล่นไม่ได้อย่างที่หวังในหลายนัด เชลซียังมีเกมรับที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ โชคดีที่แนวรุกเริ่มยิงประตูเป็นกอบเป็นกำได้แล้ว
สเปอร์สและ เลสเตอร์ ดูจะเป็นทีมที่มีความแน่นอนมากกว่าทีมอื่นๆ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้จัดการทีมมีประสบการณ์คุมทีมในพรีเมียร์ลีกมาอย่างโชกโชน รู้ว่าควรเตรียมรับมือกับปัญหาที่จะเจอในอนาคตอย่างไร
โชเซ่ มูรินโญ่ และเบรนแดน ร็อดเจอร์ส คนใดคนหนึ่งอาจจะเป็นพระเอกในวันปิดฤดูกาล ถ้าใช้บทเรียนที่เคยพลาดจากทีมเก่าของตัวเอง มาปรับแก้กับทีมปัจจุบันได้ดีกว่าที่เคยเป็น
