‘ท่าเรือ’ ยังแรงเปิดบ้านเชือด ‘เมืองทอง’ 2-0 ไล่จี้จ่าฝูง ‘บีจี’
การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2020 เมื่อวันพุธที่ 2 ธันวาคม ระหว่าง การท่าเรือ เปิดบ้านรับมือ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่แพท สเตเดียม
เริ่มเกมมาทั้งสองทีมต่างพยายามทำเกมบุกของตัวเอง แต่เกมส่วนใหญ่จะปะทะอยู่กันที่ตรงกลางสนาม เกมผ่านไปแล้ว 10 นาที ทั้งสองทีมยังไม่มีจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้ง ทำให้ การท่าเรือ เอฟซี ยังเสมอกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อยู่ 0-0
หลังจากนั้นอีก 2 นาทีต่อมา จากจังหวะวางบอลยาวของเจ้าถิ่น ก่อนเป็น บดินทร์ ผาลา เอาบอลลงก่อนเลี้ยงไปสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้ามาหน้าปากประตูให้ อดิศักดิ์ ไกรษร เข้าชาร์จไม่ถึงบอล ทำให้บอลเลยไปถึง เควิน ดีรมรัมย์ ได้จังหวะยิงแต่บอลไปติดเซฟของ ดัง วาน ลัม ปัดบอลออกมาได้ แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะบอลออกหลังในจังหวะที่ก่อน บดินทร์ ผาลา จะเปิดบอลเข้ามา
นาทีที่ 17 สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ได้บอลทางด้านขวา ก่อนเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษให้ แดร์เลย์ สลัดหนีตัวประกบ ก่อนไขว้บอลหลุดเสาออกไป
หลังจากนั้นอีก 3 นาที ทีมเยือนยังได้จังหวะลุ้นประตู เมื่อ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ได้บอลทางด้านขวา ก่อนวางบอลเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น แดร์เลย์ สอดขึ้นมาโหม่งบอลลอยโด่งเกือบเข้าประตู แต่ยังเป็น วรวุฒิ ศรีสุภา ถอยกลับไปรับบอลได้ก่อนที่บอลจะเข้าประตู
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 31 เจ้าถิ่นได้จังหวะบุก ก่อนเป็น บดินทร์ ผาลา รับบอลยาวจากแดนหลังทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนที่ บดินทร์ ผาลา จะเลี้ยงหลบ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ เข้ามาในเขตโทษแล้วยิงด้วยขวาบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ ดัง วาน ลัม ปัดบอลออกมาเข้าทาง อดิศักดิ์ ไกรษร ได้จังหวะยิงซ้ำโล่งๆเข้าไป ช่วยให้ การท่าเรือ เอฟซี ออกนำ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 โดย “อุลตร้ากอล์ฟ” ไม่แสดงท่าดีใจเพื่อให้เกียรติ “กิเลนผยอง”
เข้าสู่ น.33 เมืองทองฯ พยายามเปิดเกมบุก วัฒนา พลายนุ่ม ปะทะกับผู้เล่นเจ้าถิ่นจนล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน มงคลชัย เพชรศรี ไม่ว่าอะไร และไม่มีการเรียกดูวีเออาร์ย้อนหลัง
นาทีที่ 44 ไดสุเกะ ซาโตะ มีจังหวะเข้าปะทะกับ เซร์คิโอ ซัวเรซ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าเป็น ไดสุเกะ ซาโตะ เป็นคนฟาวล์ แต่ภาพช้าแสดงให้เห็นว่า จังหวะเข้าปะทะเป็น เซร์คิโอ ซัวเรซ ที่มองแต่บอลจนใช้ศอกไปกระแทกเข้าที่บริเวณหน้าของ ไดสุเกะ ซาโตะ จนมีแผลแตก
หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก การท่าเรือ เอฟซี นำ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0
เริ่มครึ่งหลังในนาทีที่ 48 เจ้าถิ่นได้จังหวะเตะมุมก่อนเป็น ปกรณ์ เปรมภักดิ์ รับหน้าที่เปิดเข้ามาก่อนเป็น เอเลียส ดอเลาะ ได้จังหวะโหม่งบอลเกือบเข้าประตู แต่ยังเป็น ลูคัส โฮช่า สกัดบอลออกมาได้ แต่บอลยังไปเข้าทาง เอเลียส ดอเลาะ อีกครั้ง ก่อนพยายามยิงซ้ำบอลไปโดนแขนของ วัฒนา พลายนุ่ม
ก่อนที่หลังจากนั้นอีก 1 นาที ผู้ตัดสิน มงคลชัย เพชรศรี หยุดเกมเพื่อรอเช็กวีเออาร์ว่า ท่าเรือจะได้จุดโทษหรือไม่ หลังจากที่นักเตะท่าเรือฟ้องว่า บอลไปโดนแขน วัฒนา ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะมีการตัดสินหลังเช็กแล้วว่า ไม่เป็นจุดโทษแต่อย่างใด
นาทีที่ 55 ไดสุเกะ ซาโตะ จ่ายบอลให้ สรวิทย์ พานทอง ได้บอลหลุดเข้าในเขตโทษ ก่อนได้จังหวะยิงบอลแต่ยังเป็น วรวุฒิ ศรีสุภา ปัดบอลออกมาได้ ก่อนที่ในจังหวะต่อมา เซร์คิโอ ซัวเรซ ปะทะกับ ไดสุเกะ ซาโตะ ในลักษณะคล้ายกับการย่ำ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร และไม่ได้มีการเรียกดูวีเออาร์
นาทีที่ 60 “กิเลนผยอง” ชวดได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ สรวิทย์ พานทอง ได้บอลหลุดขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนเปิดเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น แดร์เลย์ จับบอลก่อนหมุนหลับ กองหลังของท่าเรือ แล้วดึงบอลหลบ วรวุฒิ ศรีสุภา อีกครั้ง ก่อนได้จังหวะยิงโล่งๆ แต่ยังเป็น เอเลียส ดอเลาะ ที่ไปยืนสกัดบอลที่บนเส้นประตูได้ ก่อนบอลจะมาเข้ามือ วรวุฒิ ศรีสุภา รับเอาไว้ แล้วเป็น แดร์เลย์ ที่พยายามจะยิงซ้ำก่อนโดนจับฟาวล์ไป
นาทีที่ 86 เซร์คิโอ ซัวเรซ จ่ายบอลทะลุช่องออกไปทางด้านขวาให้ เนลสัน โบนีญ่า ได้จังหวะยิงเต็มข้อส่งบอลผ่านมือของ ดัง วาน ลัม เข้าประตูไป ช่วยให้ “สิงห์เจ้าท่า” นำห่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0
นาทีสุดท้าย สหรัฐ กันยะโรจน์ ของเมืองทองโดน เอเลียส ดอเลาะห์ เสียบคว่ำ แต่ผู้ตัดสินยังไม่ว่าอะไร และไม่มีการเรียกดูวีเออาร์ด้วย ก่อนจะยอมเป่าหยุดเกมเพื่อดูอาการ จากนั้น
หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน การท่าเรือ เอฟซี เปิดรังเอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญ พร้อมเป็นชัยชนะเกมที่ 7 ติดต่อกันในลีก รั้งรองจ่าฝูง มีแต้มตามหลัง บีจี ปทุม เหลือ 4 คะแนน ขณะที่ “กิเลนผยอง” อยู่อันดับ 9 ของตาราง
