หน้าไม่ยิง หลังไม่เหนียว ชนะไม่เป็น ปัญหาในมุ้ง ‘ปืนใหญ่’ ที่ ‘อาร์เตต้า’ แก้ไม่ตก

หน้าไม่ยิง หลังไม่เหนียว ชนะไม่เป็น ปัญหาในมุ้ง ‘ปืนใหญ่’ ที่ ‘อาร์เตต้า’ แก้ไม่ตก

อาร์เซน่อล ดูเหมือนจะอยู่ในอาการโคม่าทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงครึ่งฤดูกาล เพราะตอนนี้เตะผ่านไป 11 นัด ร่วงไปอยู่อันดับ 15 แพ้ไปแล้วถึง 6 นัด ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า เริ่มร้อนๆ หนาวๆ บ้างแล้ว

แนวทางการสร้างอาร์เซน่อลขึ้นมาใหม่ของอาร์เตต้าได้รับความเชื่อถือจากทั้งบอร์ดบริหารและแฟนบอลอย่างดี เพราะเขาพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพมาได้เมื่อฤดูกาลก่อน แถมยังซื้อนักเตะได้น่าสนใจ กาเบรียล มากัลเญส, โธมัส ปาเตย์ เป็นบิ๊กเนมที่ทำให้แฟนบอลคาดหวังได้ว่าจะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมได้แน่ๆ

ความพ่ายแพ้ต่อสเปอร์สในลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ล่าสุด ถ้ามองกันในรายละเอียดแล้ว ทีมปืนใหญ่ครองบอลได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ จ่ายบอลกัน 300 ครั้ง มีโอกาสยิงประตูมากกว่า เตะมุมมากกว่า เปิดบอลจากด้านข้างมากกว่า สถิติทุกอย่างดีกว่าทั้งหมด ขาดเพียงประตูเท่านั้น

ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมปืนฝืดมานานเหลือเกิน ฤดูกาลนี้ยิงไปแค่ 2 ตุง จาก 11 นัดในพรีเมียร์ลีก ประตูสุดท้ายที่ทำได้ คือ การยิงจุดโทษให้ทีมชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน

Advertisement

โอบาเมยองมีลุ้นโขกประตูปลดล็อกในเกมกับไก่เดือยทอง แต่เขาเปลี่ยนโอกาสทองให้กลายเป็นความสูญเปล่า เมื่อบอลลอยข้ามคานออกไปแบบไม่น่าเชื่อ เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า โอบาเสียความมั่นใจไปมากจากผลงานของตัวเองในฤดูกาลนี้

4 เกมหลังในพรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อลเก็บได้เพียงแต้มเดียว ยิงไปประตูเดียว และไม่ชนะใครเลย เกมรุกไร้ซึ่งประสิทธิภาพ 11 เกมที่ผ่านมา สร้างโอกาสทำประตู 65 ครั้ง ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดในบรรดา 20 ทีมของพรีเมียร์ลีกไปแล้ว

Advertisement

อาร์เตต้าเน้นการบุกจากด้านข้าง ครอสบอลให้แนวรุกลุ้นประตู ในเกมที่แพ้วูล์ฟส์ 1-2 อาร์เซน่อลเปิดบอลจากด้านข้าง 33 ครั้ง ซึ่งอาร์เตต้าพอใจกับแนวทางนี้ เพราะมองว่าถ้านักเตะปืนใหญ่ที่ยืนอยู่ในกรอบเขตโทษสม่ำเสมอกว่านี้ โอกาสจะได้ประตูมากขึ้นก็มีมากเช่นกัน

ในเกมแพ้สเปอร์ส 0-2 อาร์เซน่อลครอสบอลถึง 44 ครั้ง มากที่สุดในทุกแมตช์และทุกทีมในฤดูกาลนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้นเหมือนเดิม

มีข่าวคราวว่า วินัย เวนเกตชาม ซีอีโอของทีมปืนใหญ่ติดต่อหา อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานผู้จัดการของทีมให้กลับมากู้วิกฤติครั้งนี้แล้ว หลังจากโบกมือลาทีมไปเมื่อปี 2018 ซึ่งฤดูกาลสุดท้ายของเวงเกอร์กับอาร์เซน่อล ที่ใครๆ มองว่าเลวร้ายมาก คือจบในอันดับ 6

เมล ออน ซันเดย์ รายงานว่า เวนเกตชามบอกกับเวนเกอร์ว่ายินดีต้อนรับเขากลับมาสู่สโมสรเสมอ แต่คนภายในสโมสรยืนยันว่าเวนเกอร์จะไม่กลับไปยืนตรงจุดเดิมอีกแน่นอน เพราะเขาไม่แฮปปี้กับวิธีการที่สโมสรเลือกทำในช่วงท้ายที่เขาอยู่กับทีม

“ความสัมพันธ์จบลงไม่ดีเลย และเวงเกอร์ก็รู้สึกแบบนั้น เพราะเขาหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติจากสโมสรดีกว่านี้ หลังจากปีเตอร์ ฮิลล์-วู้ด เสียชีวิต เวนเกอร์ควรจะได้เป็นประธานสโมสร เพราะอาร์เซน่อลไม่ควรปล่อยคนที่มีศักยภาพรอบด้านแบบนี้ออกไป” หนึ่งในเพื่อนร่วมงานของเวนเกอร์กล่าว

สถานะของอาร์เตต้าก็คงไม่ต่างจาก แฟรงก์ แลมพาร์ด ที่เชลซี หรือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่แมนฯยู คือ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย พวกเขาจะได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหาร โดยเฉพาะเรื่องของเวลาและงบประมาณในการทำทีม ไม่ว่าแฟนบอลจะอยากให้ปลดขนาดไหน สัญญาใจที่มีระหว่างบอร์ดและกุนซือ จะทำให้ตำนานของสโมสรในวันที่เป็นนักเตะยังอยู่รอดปลอดภัย

อาร์เตต้ายังมีผลงานในยูโรป้าลีกที่ชนะ 5 รวด และผ่านเข้ารอบต่อไปแล้วเป็นเกราะป้องกัน ไม่ว่าจะจบอันดับเท่าไรในพรีเมียร์ลีก ขอแค่ไม่ตกชั้น แล้วไปถึงแชมป์ยูโรป้าลีกได้ เก้าอี้ของเขาก็จะยังมั่นคงแข็งแรงแน่นอน

แฟนปืนใหญ่คงต้องทนอึดอัดกันไปอีกสักระยะ แต่ช่วง 10 ปีหลัง ก็เป็นแบบนี้มาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่หรือ!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image