ก้องศักด เผยกองทุนกีฬาชาติ พร้อมอัดฉีดเงินรางวัลทัพไทยคว้าเหรียญโอลิมปิก
“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ในกรณีที่นักกีฬาทีมชาติไทย ประสบความสำเร็จ คว้าเหรียญรางวัล ไม่ว่าจะเป็นเหรียญทอง เหรียญเงิน หรือเหรียญทองแดง จากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พร้อมจะมอบเงินรางวัลอัดฉีด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ตอบแทนให้นักกีฬารายนั้นๆ เช่นเดิม โดยยอดการอัดฉีดยังคงอัตราเดิมเท่ากับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 โดยเหรียญทอง มอบให้ 12 ล้านบาท, เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท
ดร.ก้องศักด ก่ลาวอีกว่า โอลิมปิกเกมส์ ถือเป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของโลก ซึ่งการที่นักกีฬาแต่ละคนสามารถควอลิฟายผ่านเข้ามาแข่งขันในรอบสุดท้ายได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ และยอดเยี่ยมมากๆแล้ว อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยก็มีนักกีฬาหลายคนที่มีศักยภาพดีพอที่จะคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขังขันได้ด้วย ซึ่งกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ก็พร้อมจะมอบเงินรางวัลตอบแทนความมุ่งมั่นและเพียรพยายามให้กับนักกีฬาทุกคน ตามอัตราที่ได้กำหนดเอาไว้
“แม้จะไม่ได้มากมายถึงหลักหลายสิบล้าน แต่ก็เชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจ และก็ถือเป็นรางวัลตอบแทนให้นักกีฬาไทยทุกคน นอกเหนือจากเหรียญโอลิมปิก ซึ่งนับว่าเป็นเหรียญที่มีความสำคัญและประเมินค่าไม่ได้อยู่แล้ว” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว
ทั้งนี้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการให้เงินรางวัลแก่นักกีฬา บุคลกากรกีฬา และสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” พ.ศ. 2562 โดยมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน ระบุในเอกสารว่า หากนักกีฬาไทยคว้าเหรียญทอง จะได้รับเงินรางวัลอัดฉีด 12 ล้านบาท, เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท
ส่วนเงื่อนไขของการจ่ายตอบแทน มีให้เลือก 2 แบบ ส่วนแรก คือ จ่ายเป็นก้อนในอัตราร้อยละ 50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 แบ่งจ่ายเป็นรายเดือน ภายในระยะเวลา 4 ปี ส่วนแบบที่ 2 จ่ายเป็นก้อนทั้งหมดในครั้งเดียว แต่เงินรางวัลจะลดลง โดยเหรียญทอง ได้ 10 ล้านบาท, เหรียญเงิน 6 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4 ล้านบาท โดยนักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัล มีสิทธิ์เลือกรับเงินรางวัลอย่างใดอย่างหนึ่ง
สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ เมื่อปี 2016 ที่นครริโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล 6 นักกีฬาไทย ช่วยกันคว้ารวม 2 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง รวมเป็นเงิน 48 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับเงินอัดฉีดในส่วนของเจ้าหน้าที่ ผู้ฝึกสอน ได้รับร้อยละ 20 รวมเป็นเงิน 8 ล้านบาท และสมาคมกีฬา ร้อยละ 30 รวมเป็นงาน 9 ล้านบาท กองทุนฯมอบเงินสนับสนุนรวมให้กับทัพนักกีฬาที่คว้าเหรียญรวมถึง 65 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมอบเงินรางวัลพิเศษ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน แต่ไม่ได้รับเหรียญรางวัลในครั้งนั้นอีกคนละ 1 แสนบาท โดยมีนักกีฬาไม่ได้รับเหรียญ 48 คน 17 ชนิดกีฬา มอบเป็นเงินให้ 4.8 ล้านบาท รวมในครั้งนั้นกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติอัดฉีดเงินรางวัลตอบแทนให้นักกีฬาไทยรวม 69.8 ล้านบาท
