คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : ผ่านช่วงวิกฤติ

คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : ผ่านช่วงวิกฤติ

อาร์เซน่อล กลับมาฟื้นคืนชีพอย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดบ้านชนะสเปอร์ส 3-1 ในศึกลอนดอน ดาร์บี้ และคว้าชัย 4 นัดติดต่อกัน รวมทุกรายการ แฟนบอลปืนใหญ่กลับมายิ้มกว้างได้อีกครั้ง

ช่วงเริ่มฤดูกาล อาร์เซน่อลไม่มีความอันตราย แพ้รวด 3 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ไม่มีทรง สู้ไหม่ไหว ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า ถูกแฟนบอลไล่อย่างหนัก 

ปัจจัยหลักๆ น่าจะมาจากการที่แนวรับอย่าง เบน ไวท์, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ และ อารอน แรมสเดล ปรับจูนจังหวะเข้ากับทีมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ 4 เกมหลังสุด เสียไปแค่ประตูเดียวเท่านั้น 

นูโน่ ตาวาเรส และ แซมบี้ ลากองก้า สองแนวรับตัวใหม่ ก็ได้รับโอกาสให้สัมผัสเกมมากขึ้นเรื่อยๆ โธมัส ปาร์เตย์ กลับมาลงสนาม ผนึกกำลังกับ กรานิต ชาก้า ได้เนียนตามากขึ้น ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กลับมายิงได้ประตูด้วยความมั่นใจ ดาวรุ่งอย่าง เอมิล สมิธ โรว์ และ บูกาโย่ ซาก้า ฉายแววเป็นคนสำคัญของทีมได้ตามที่คาดหวัง

Advertisement

สำคัญกว่านั้น เมื่อชนะติดต่อกัน ความมั่นใจของนักเตะและผู้จัดการก็กลับมาดีอีกครั้ง ทำให้หลังจากนี้น่าจะเป็นขาขึ้นของทีมปืนใหญ่ที่จะเน้นทำอันดับในลีกให้ขยับขึ้นไปอยู่หัวตารางได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าจะมองกันถึงว่าจะได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกหรือไม่ โอกาสยังคงเปิดกว้าง เพราะตามหลังจ่าฝูงอย่างลิเวอร์พูล 5 แต้มเท่านั้น ถ้ารักษาความสม่ำเสมอต่อไปได้เรื่อยๆ และรอลุ้นว่าทีมหัวตารางทั้งหลายพลาดพลั้งขึ้นมาอีก

คนที่ได้รับคำชมอย่างมากในเกมชนะสเปอร์ส คือ ชาก้า ที่กลับมาลงสนามแล้วช่วยให้แดนกลางปืนใหญ่แข็งขึ้น เมื่อเล่นเข้าขากับปาร์เตย์ ก็ช่วยจัดการ ปิแอร์-เอมิลล์ ฮอยเบิร์ก ตัวทำลายล้างเกมแดนกลางของสเปอร์ส ได้อยู่หมัดในเกมนี้ เดเล่ อัลลี กับ ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ที่ยืนอยู่เหนือฮอยเบิร์กก็ทำอะไรได้ไม่ถนัด

เกมกับสเปอร์ส อาร์เตต้าส่งนักเตะลงสนามด้วยอายุเฉลี่ยแค่ 24 ปีเท่านั้น มีเพียงโอบาเมยองคนเดียวที่อายุเกิน 30 ปี แสดงให้เห็นว่าอาร์เซน่อลไม่ได้ทำทีมให้เป็นแชมป์ทันทีในเร็วๆ นี้ แต่วางรากฐานทีมให้แข็งแรง แล้วเดินหน้ากลับสู่การเป็นทีมใหญ่ไล่ล่าแชมป์ระยะยาวอีกรอบ

ปัญหาเดิมๆ ของอาร์เซน่อลไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีมคนไหนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ ความไม่สม่ำเสมอ และการเอาแต้มจากหัวตารางไม่ค่อยได้ แต่กลับไปปราบในฟุตบอลถ้วยได้อยู่บ่อยๆ ฤดูกาลนี้แพ้ในลีกให้ทั้งแมนฯซิตี้และเชลซี ยังมีเวลาอีกเดือนกว่าๆ ถึงจะต้องไปเยือนลิเวอร์พูล 

อาร์เตต้าเอาตัวเองออกจากช่วงเวลาแย่ๆ มาได้แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าปัญหาหมดลงแล้ว เพราะการลงทุนมหาศาลในข่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ใช้ไป 165 ล้านยูโร ความคาดหวังจากบอร์ดบริหารไม่น้อยแน่ๆ 

พรีเมียร์ลีกคงยากที่จะเบียดเชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนฯซิตี้ ไปถึงแชมป์ได้ ท็อปโฟร์ก็อาจจะไปไม่ถึงในซีซั่นนี้ ดังนั้นแชมป์บอลถ้วย น่าจะเป็นผลงานรักษาเก้าอี้ของอาร์เตต้าให้เหนียวแน่นไว้ก่อน

ถ้าไม่มีแชมป์ ไม่ติดท็อปโฟร์ และไม่สม่ำเสมออีก โอกาสที่โค้ชคนอื่นจะเข้ามาสานต่องาน ก็มีไม่น้อย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image